• Privacy Policy
  • Sample Page
News
No Result
View All Result
No Result
View All Result
News
No Result
View All Result

เผยสาเหตุหนี้ 3,000 ล้านบาทของ JKN พร้อมโต้กระแสข่าวที่ว่า ‘แอน จักรพงษ์’ หอบเงิน 6,000 ล้านบาทหลบหนี

admin79 by admin79
November 26, 2025
in Uncategorized
0
เผยสาเหตุหนี้ 3,000 ล้านบาทของ JKN พร้อมโต้กระแสข่าวที่ว่า ‘แอน จักรพงษ์’ หอบเงิน 6,000 ล้านบาทหลบหนี

เพจ Hello Anniverse แจ้งข่าว ทีมผู้บริหาร JKN ชี้แจงข่าว “แอน จักรพงษ์” หอบเงิน 6 พันล้านหนี ไม่จริง พร้อมเผยสาเหตุหนี้สิน JKN 3 พันล้านบาท เกิดจากอะไร

ออกมาชี้แจงแล้ว.. ก่อนหน้านี้มีข่าวลือสะพัดว่า “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” หอบเงินกว่า 6 พันล้านบาทไทย ไปแปลงเป็นโทเคน หรือคริปโตเคอเรนซี่ และหนีไปอยู่ที่ประเทศเม็กซิโก โดยได้สัญชาติเม็กซิโก ผ่านการอนุเคราะห์ของนาย “ราอูล โรชา คานตู” นักธุรกิจชาวเม็กซิกันในฐานะประธาน Miss Universe

ล่าสุด “เพจ Hello Anniverse” ได้โพสต์คลิปชี้แจงว่า.. จากกระแสข่าวที่มีในโลกออนไลน์ ทีมผู้บริหาร JKN ข้อชี้แจงว่า ประเด็นเงินจำนวน 6 พันล้านบาท ไม่ตรงกับความเป็นจริง ปัจจุบันหนี้สินของทาง JKN อยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านบาท แบ่งออกเป็นเจ้าหนี้หุ้นกู้ และหนี้ระหว่างบริษัท ซึ่งการรวมตัวเลขเหล่านี้ทำให้ตัวเลขดูสูงกว่าความเป็นจริง 

สำหรับเงินทุนจากหุ้นกู้ ที่ JKN ได้รับมานั้น เพจ Hello Universe ชี้แจงว่า ถูกนำไปลงทุน และสนับสนุนงานของ JKN ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การบริหารเกิดการคลาดของกระแสเงินสด ส่งผลให้ JKN ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ในส่วนของคดีความที่ถูกกล่าวโทษอยู่ในระหว่างการสอบสวน 

พร้อมแนบแคปชั่น “ชี้แจงข้อเท็จจริงจาก JKN ทีมผู้บริหารขอชี้แจงกรณีข่าวลือเกี่ยวกับบริษัท ดังนี้:

  • ข้อมูลเรื่องเงิน และการโอนคริปโต ไม่เป็นความจริง
  • การชำระหนี้ล่าช้าเกิดจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวและความคลาดเคลื่อนของกระแสเงินสด ไม่ใช่การทุจริต
  • คดีความกับหน่วยงานรัฐอยู่ระหว่างการสอบสวน และยังไม่ถือเป็นการกระทำผิด
  • JKN ยืนยันการดำเนินธุรกิจอย่าง โปร่งใส พร้อมความร่วมมือกับทุกฝ่าย

ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณ และให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย” 

ถอดรหัสอนาคตอสังหาริมทรัพย์ไทย 2568: กลยุทธ์พิชิตตลาดผันผวนและโอกาสทองของนักลงทุน

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นทั้งช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์และความท้าทายที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ช่วงปี 2566 ถือเป็นอีกบทพิสูจน์ความแกร่งที่หลายฝ่ายต้องเผชิญกับบทเรียนอันขมขื่น ไม่ว่าจะเป็นภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง กำลังซื้อที่หดหาย และอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงกดดัน บรรยากาศเช่นนี้ลากยาวมาจนถึงปี 2567 และกำลังปูทางสู่ปี 2568 ที่ไม่ใช่แค่ “ปีแห่งความท้าทาย” แต่เป็น “ปีแห่งการปรับกระบวนทัพ” ครั้งสำคัญ

ปี 2568 นี้ เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ผู้เล่นในตลาดต้องมีกลยุทธ์ที่คมชัดกว่าเดิม ปรับตัวเร็วกว่าที่เคย และมองหาโอกาสที่ซ่อนอยู่ในวิกฤติต่างๆ ผู้ประกอบการที่ยังยึดติดกับโมเดลเดิมๆ อาจต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่สำหรับผู้ที่พร้อมจะวิเคราะห์ เรียนรู้ และลงทุนในนวัตกรรม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 จะยังคงมี “โอกาสทอง” รออยู่เสมอ

ภูมิทัศน์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย 2568: ปัจจัยขับเคลื่อนและแรงกดดัน

การทำความเข้าใจภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 จำเป็นต้องพิจารณาจากปัจจัยมหภาคหลายด้านที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปสงค์และอุปทาน:

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมหภาค: เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แรงหนุนหลักมาจากการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งขึ้น และการส่งออกที่คาดว่าจะกลับมาเป็นบวก หากรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมกะโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการลงทุนในทำเลศักยภาพต่างๆ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ GDP อาจยังไม่โดดเด่นนัก ทำให้กำลังซื้อโดยรวมยังคงเปราะบางในบางเซ็กเมนต์

อัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อที่อยู่อาศัย: แม้จะมีสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจเริ่มทรงตัวหรือมีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แต่ภาระดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลักต่อกำลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อระดับกลางถึงล่าง สถาบันการเงินยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ดังนั้น “สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” จะยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ ต้องให้ความสำคัญ

หนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อ: นี่คือหัวใจสำคัญของความท้าทายตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยยังคงสูง ซึ่งจำกัดความสามารถในการก่อหนี้ใหม่ของผู้บริโภคจำนวนมาก การแก้ปัญหานี้ต้องใช้เวลาและนโยบายที่บูรณาการ ทำให้ผู้พัฒนาต้องมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง หรือพัฒนาโครงการที่เน้น “ราคาที่เข้าถึงได้” ควบคู่ไปกับการเสนอแพ็กเกจสินเชื่อที่น่าสนใจ

กำลังซื้อจากต่างชาติและการท่องเที่ยว: ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2568 จะนำมาซึ่งกำลังซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมหรูและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา ตลาดคอนโดกรุงเทพฯ จะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากความต้องการของชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาอยู่อาศัยและทำงาน รวมถึงการมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ให้ Yield อสังหาริมทรัพย์ ที่น่าสนใจ

นโยบายรัฐบาลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง: การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะ “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม การติดตามนโยบายและมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด จะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุน

การวิเคราะห์ผลงานจากบทเรียนปี 2566 สู่กลยุทธ์ 2568: ถอดรหัสผู้ชนะตัวจริง

จากการเก็บข้อมูลบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ กว่า 40 แห่งในปี 2566 Property Mentor ได้เห็นถึงผลประกอบการที่สะท้อนถึงความท้าทายอย่างแท้จริง รายได้รวมของทั้งอุตสาหกรรมลดลงเล็กน้อย และที่น่าตกใจคือมีบริษัทจำนวนมากที่รายได้และกำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ท่ามกลางความผันผวนนี้ ยังมี “ผู้ชนะตัวจริง” ที่สามารถฝ่ามรสุมไปได้ ซึ่งบทเรียนเหล่านี้จะเป็นแสงนำทางสำหรับกลยุทธ์ในปี 2568

รายได้รวม: วัดพลังทุนและการปรับตัว

ปี 2566 ได้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่มีรายได้รวมติดลบจำนวนมาก มักเป็นบริษัทที่พึ่งพิงการขายโครงการใหม่เป็นหลัก และเมื่อตลาดชะลอตัว ย่อมส่งผลกระทบโดยตรง แต่ในทางกลับกัน บริษัทที่ยังคงรักษาการเติบโตของรายได้ได้ดี เช่น แสนสิริ และ เอพี (ไทยแลนด์) ไม่ได้พึ่งพิงแค่ยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีกลยุทธ์การบริหารพอร์ตโฟลิโอที่ชาญฉลาดและการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์อื่นๆ

แนวโน้ม 2568: ผู้ประกอบการจะหันมาให้ความสำคัญกับ “กลยุทธ์กระจายความเสี่ยง” มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน “อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน” ที่สร้าง “รายได้ประจำ” เช่น อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (คอมมูนิตี้มอลล์, ออฟฟิศให้เช่า) โรงแรม หรือแม้กระทั่งการให้บริการ “Property Management” ที่สร้างรายได้ค่าธรรมเนียมอย่างต่อเนื่อง บริษัทที่มีความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์หลากหลายประเภท จะเป็นผู้ได้เปรียบ และสามารถรักษาระดับรายได้รวมให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้

รายได้จากการขาย: หัวใจของการสร้างการเติบโตในสภาวะท้าทาย

ปี 2566 เป็นปีที่ “รายได้จากการขาย” ของหลายบริษัทลดลงอย่างน่าตกใจ สะท้อนถึงกำลังซื้อที่หายไปและการแข่งขันที่รุนแรง บริษัทอย่าง ไรมอน แลนด์, แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ หรือแม้แต่ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ก็ยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ในทางกลับกัน เอพี (ไทยแลนด์) ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำด้านยอดขายไว้ได้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและการพัฒนาโครงการที่ตรงใจ

แนวโน้ม 2568: “การตลาดอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัล” จะไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ การใช้ “เทคโนโลยี PropTech” เช่น AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและพฤติกรรมการซื้อ, VR/AR ในการนำเสนอโครงการเสมือนจริง, และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับการจองและซื้อขาย จะเข้ามามีบทบาทอย่างมาก

ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม: ตลาดไม่ได้ต้องการบ้านที่เหมือนกันอีกต่อไป ผู้พัฒนาต้องเข้าใจความต้องการที่หลากหลาย เช่น “คอนโดมิเนียมหรู” ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน, “บ้านเดี่ยวทำเลทอง” สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่, หรือ “บ้านอัจฉริยะ” ที่รองรับการใช้ชีวิตในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีตลาดเฉพาะอย่าง “อสังหาริมทรัพย์ผู้สูงอายุ” และ Co-living/Co-working spaces ที่จะเติบโตขึ้น
การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง: การลดสต็อกค้างและระบายยูนิตที่เหลือ จะยังคงเป็นภารกิจสำคัญ การจัดโปรโมชั่นที่เข้าถึงใจลูกค้าและสร้างมูลค่าที่แท้จริง จะช่วยกระตุ้นยอดขายได้
ทำเลศักยภาพ: การเลือกทำเลที่ตั้งโครงการยังคงเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ หรืออยู่ในศูนย์กลางธุรกิจและคมนาคม

กำไรสุทธิ: บทพิสูจน์ความสามารถในการทำกำไรและบริหารจัดการ

แม้จะมียอดขายดี แต่หากมีกำไรสุทธิน้อยหรือไม่เหลือเลย ย่อมไม่ถือเป็นผู้ชนะตัวจริง ปี 2566 กำไรสุทธิรวมของทั้งอุตสาหกรรมลดลงถึง 11% และมีบริษัทกว่า 12 แห่งที่ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง สะท้อนถึงความท้าทายในการบริหารจัดการต้นทุนและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ

แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยังคงเป็นผู้นำด้านกำไรสุทธิในปี 2566 ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอและสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์อื่นๆ เช่น การขายโรงแรมเข้ากองทุน ขณะที่ ศุภาลัย และ AP (ไทยแลนด์) ก็ยังคงทำกำไรได้ดี แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

แนวโน้ม 2568:
ประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบริหารจัดการต้นทุน: การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น, การใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่ม Productivity ในกระบวนการก่อสร้างและการบริหารจัดการโครงการ จะเป็นกุญแจสำคัญ การบริหารจัดการหนี้อย่างรัดกุมและการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน จะช่วยให้บริษัทอยู่รอดได้ในสภาวะที่ท้าทาย
การลงทุนที่เน้นผลตอบแทนสูง: การเลือกพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูง หรือการลงทุนใน “อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน” ที่ให้ “Yield อสังหาริมทรัพย์” ที่น่าสนใจ จะเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ
ความยั่งยืน (Sustainability): การพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ “Green Building” ไม่ใช่แค่การสร้างภาพลักษณ์ แต่ยังช่วยลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว และเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการในสายตานักลงทุนและผู้บริโภคที่ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แนวคิด ESG ในอสังหาริมทรัพย์ จะถูกนำมาปรับใช้มากขึ้นเรื่อยๆ

โอกาสทองและเทรนด์ใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย 2568

นอกเหนือจากความท้าทาย ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 ยังเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับผู้ที่มองเห็นและกล้าที่จะคว้าไว้:

อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (Wellness & Elderly Living): ด้วยสังคมไทยที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ ความต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ และบริการทางการแพทย์ จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด นี่คือเมกะเทรนด์ที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม

อสังหาริมทรัพย์สีเขียวและยั่งยืน (Green & Sustainable Real Estate): ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อนจะผลักดันให้เกิดความต้องการโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้พัฒนาที่ลงทุนในการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานทางเลือก หรือวัสดุรีไซเคิล จะสร้างมูลค่าเพิ่มและดึงดูดกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนที่ใส่ใจ

การพัฒนาแบบผสมผสาน (Mixed-Use Development): โครงการที่รวมที่อยู่อาศัย, พื้นที่เชิงพาณิชย์, ออฟฟิศ, และพื้นที่สันทนาการเข้าไว้ด้วยกันในทำเลศักยภาพ จะยังคงเป็นที่ต้องการของคนเมืองที่มองหาความสะดวกสบายและไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน

PropTech และ AI ในอสังหาริมทรัพย์: การนำ “เทคโนโลยี PropTech” เข้ามาใช้ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การออกแบบ, ก่อสร้าง, การตลาด, การขาย ไปจนถึงการบริหารจัดการทรัพย์สิน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลและช่วยในการตัดสินใจ “การลงทุนอสังหาริมทรัพย์” จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความได้เปรียบ

ทำเลศักยภาพใหม่ๆ: การขยายตัวของเมืองและโครงข่ายคมนาคม (รถไฟฟ้า, มอเตอร์เวย์) จะสร้าง “ทำเลศักยภาพ” ใหม่ๆ ให้กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ชานเมืองที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ และเมืองรองที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน: นอกจากโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว การลงทุนใน “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REIT)” หรือ “Private Equity” ที่เน้นอสังหาริมทรัพย์ จะยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและกระจายความเสี่ยง

ความท้าทายที่ต้องจับตาในปี 2568

แม้จะมีโอกาส แต่ปี 2568 ก็ยังคงมาพร้อมกับความท้าทายที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ:
หนี้ครัวเรือนสูงและกำลังซื้อที่จำกัด: ยังคงเป็นแรงกดดันหลัก โดยเฉพาะในตลาดระดับกลางถึงล่าง
ภาวะ Over Supply ในบางเซ็กเมนต์: โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมบางทำเลที่ยังคงมีซัพพลายคงค้างจำนวนมาก
ต้นทุนการพัฒนาที่ดินและก่อสร้าง: ยังคงเพิ่มขึ้นจากราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงาน
กฎระเบียบและภาษีอสังหาริมทรัพย์: การปรับปรุงกฎหมาย เช่น “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการถือครองและการพัฒนา
การแข่งขันที่รุนแรง: ทั้งจากผู้ประกอบการรายใหญ่และรายกลางที่ต่างต้องเร่งปรับตัว

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: กลยุทธ์พิชิตตลาด 2568

จากประสบการณ์ในวงการ ผมขอเสนอแนวทางกลยุทธ์สำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุน เพื่อพิชิตตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568:

การบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโออย่างชาญฉลาด: Diversify สินทรัพย์ให้หลากหลาย ไม่พึ่งพิงรายได้จากการขายเพียงอย่างเดียว แต่ควรมองหาการลงทุนใน “อสังหาฯ เพื่อการลงทุน” ที่สร้าง “รายได้ประจำ” หรือมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว

นวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยี: “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอสังหาฯ” ไม่ใช่แค่คำศัพท์ แต่คือการลงมือทำอย่างจริงจัง Embracing “PropTech” “AI ในอสังหาฯ” และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) จะช่วยให้เข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำ

การสร้าง Customer Centricity: เข้าใจความต้องการและความเปลี่ยนแปลงของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม (Personalization) และสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าตลอดเส้นทางการซื้อ

ความยืดหยุ่นและความคล่องตัว (Agility): สถานการณ์ตลาดเปลี่ยนแปลงเร็ว ผู้ประกอบการต้องพร้อมปรับกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายที่เกิดขึ้น

การร่วมมือและสร้างพันธมิตร (Partnership): การร่วมทุนกับผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ หรือการร่วมมือกับสถาบันการเงินและผู้ค้าปลีก สามารถช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มศักยภาพในการพัฒนา และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้

การสร้างแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและยั่งยืน: ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารท่วมท้น การสร้างแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีธรรมาภิบาล และให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืนอสังหาฯ” (ESG) จะเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าและนักลงทุนในระยะยาว

บทสรุปและคำเชิญชวน

ปี 2568 จะเป็นอีกปีที่เต็มไปด้วยบททดสอบสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย แต่ในทุกความท้าทายย่อมมี “โอกาสทอง” ซ่อนอยู่เสมอ สำหรับผู้ที่พร้อมจะเรียนรู้ ปรับตัว และนำกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดมาใช้ ผู้ประกอบการและนักลงทุนจะสามารถสร้างความได้เปรียบและคว้าชัยชนะในตลาดที่ผันผวนนี้ได้

หากคุณเป็นนักลงทุน ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยและต้องการคำแนะนำเชิงลึก รวมถึงการวิเคราะห์เฉพาะทางเกี่ยวกับ “แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2568” และ “กลยุทธ์อสังหาฯ” ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ เพื่อไม่พลาดทุกโอกาสสำคัญในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โปรดติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของเราได้วันนี้.

Previous Post

แมท ภีรนีย์ สุดทน! ฟาดแรงปมการช่วยเหลือน้ำท่วมล่าช้า ตั้งคำถามผู้นำรออะไร

Next Post

แอร์ ภัณฑิลา บริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมลงมือแพ็กถุงยังชีพเพื่อส่งต่ออย่างเร่งด่วน

Next Post
แอร์ ภัณฑิลา บริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมลงมือแพ็กถุงยังชีพเพื่อส่งต่ออย่างเร่งด่วน

แอร์ ภัณฑิลา บริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมลงมือแพ็กถุงยังชีพเพื่อส่งต่ออย่างเร่งด่วน

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • เคน ภูภูมิ ขอไม่เปิดเผยตัวเลขความเสียหายคาเฟ่ที่หาดใหญ่ ยืนยันสู้ต่อ เดินหน้าฟื้นฟูและปรับปรุงร้านใหม่
  • ‘จ๊ะ นงผณี’ เปิดพฤติกรรม ‘ผู้ชาย 3 ประเภท’ ที่มักโผล่ในข่าวฉาว เตือนสาวๆ ถ้าเจอแบบนี้ให้รีบหนีทันที!
  • “นายกฯ” นำคณะลงพื้นที่สงขลา–สตูล ถกแผนฟื้นฟูหลังน้ำท่วม พร้อมปฏิเสธตอบดราม่า นายกฯ อบจ.สงขลา ดูแคลน อส.
  • “กุญแจซอล” คุณแม่ลูก 5 เปิดภาพครอบครัวสุดอบอุ่น รายล้อมด้วยสามีและลูกๆ ทั้งหมด ดูมีความสุขสุดๆ
  • เช็กสถานะรับเงินเยียวยาน้ำท่วม 2568! เปิดขั้นตอนลงทะเบียนครบถ้วน พร้อม 4 รูปแบบการจ่ายเงินให้ผู้ประสบอุทกภัย

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.