4 ธ.ค. 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองกํากับการ 4 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) นำตัว “นานา ไรบีนา” อายุ 44 ปี อดีตดีเจชื่อดัง ผู้ต้องหา ฐานกระทำผิด “ฉ้อโกงทรัพย์ เเละความผิดตาม พรก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” มาฝากขังครั้งแรก
พฤติการณ์แห่งคดี คือ เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2565 ต่อเนื่องกันไป ผู้ต้องหาได้มาชักชวน นายเอ นามสมมติ ผู้กล่าวหากับพวกและพยานรวม 10 ราย ร่วมลงทุนในธุรกิจนําเงินไปปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลร่วมกับนางตาว นามสมมติ ให้ผลตอบแทน 4-7% ต่อเดือน มีตัวอย่างการผู้มาขอกู้ยืมเงินจากนานา ให้แสดงให้ผู้กล่าวหาดู เช่น คุณ บี 5 ล้าน มีระยะเวลาในการจ่าย ผลตอบแทน 14 ธันวาคม 200,000 บาท,14 มกราคม 200,000 บาท, 14 กุมภาพันธ์ 200,000 บาท,14 มีนาคม 200,000 บาท เป็นต้น
โดยนานา ได้เสนอแผนการลงทุนพร้อมผลตอบแทนในลักษณะดังกล่าวมายังผู้กล่าวหาจํานวน หลายครั้งปรากฏตามเอกสารที่ผู้กล่าวหามอบให้พนักงานสอบสวน จึงเชื่อว่ามีการทําธุรกิจจริงจึงตัดสินใจร่วมลงทุน โอนเงินไปลงทุนกันผ่านบัญชีซึ่งปรากฏชื่อผู้ต้องหาเป็นผู้เปิดบัญชี จำนวน 4 บัญชี
โดยผู้กล่าวหาได้ลงทุนไปในช่วงแรกของการลงทุนผู้กล่าวหาได้รับผลตอบแทนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างจริงได้ลงทุนเพิ่มตามแผนการลงทุนที่นางไรบีนา ได้เสนอมาให้ผู้กล่าวหาแต่ละครั้ง

ต่อมาเมื่อประมาณเดือนมกราคม -กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ต้องหาได้หยุดจ่ายผลตอบแทนพร้อมเงินต้น ผู้กล่าวหาจึงได้ทวงถามนางไรบีนา แจ้งว่าตนเองโดน หน่วยงานของรัฐอายัดบัญชีธนาคาร ทําให้ไม่สามารถจ่ายเงินผลตอบแทนและเงินลงทุนให้ได้ จึงได้สอบถามว่าจะได้เงิน ผลตอบแทนตามกําหนดเมื่อไร เพราะล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว ก็ไม่ได้ให้คําตอบที่แน่ชัด เพียงแต่บอกว่าประมาณเดือน ตุลาคม 2568 จะได้เงินคืนทั้งหมด
และได้มีการออกเช็คธนาคารให้กับผู้กล่าวหากับพวก ปรากฏตามเอกสารที่ได้มอบให้ให้พนักงานสอบสวน เพื่อชําระเงินต้นและผลตอบแทน ซึ่งเช็คบางฉบับผู้กล่าวหาได้นําไปเรียกเก็บกับธนาคาร ซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่าย โดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย
ต่อมาเมื่อประมาณเดือน กันยายน 2568 นานา ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้มีการนําเงินของผู้กล่าวหาไปลงทุนในธุรกิจจริง แต่คนที่กล้างอ้างถึงนั้นมีตัวตนอยู่จริงแต่ไม่ได้มีการนําเงินผู้กล่าวหาและบุคคลรายอื่นไปลงทุน ซึ่งแต่ละรายถูกหลอกลวงเช่นเดียวกับผู้กล่าวหา และได้นําเงินของผู้กล่าวหาไปใช้ เป็นประโยชน์ส่วนตน จึงขอเงินลงทุนคืน
ภายหลังทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีการทําธุรกิจตามที่กล่าวอ้างจริง และมีบุคคลอื่นที่ถูกหลอกลวงเช่นเดียวกับผู้กล่าวหาเป็นจํานวนหลายสิบราย จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงแน่แล้ว จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์รวมความเสียหาย จำนวนเงิน 152,907,577 บาท
สุดยอดซูเปอร์คาร์แห่งปี 2025: ยนตรกรรมแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนหัวใจสปอร์ต
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของ “ซูเปอร์คาร์” จากเครื่องจักรกลที่เน้นแรงม้าดิบๆ สู่ผลงานศิลปะทางวิศวกรรมที่หลอมรวมพลัง เทคโนโลยี และจิตวิญญาณแห่งการขับขี่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ปี 2025 นี้ ไม่ใช่แค่การมองหาความเร็วสูงสุด แต่เป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่า ทั้งจากระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ซับซ้อน นวัตกรรมวัสดุศาสตร์ที่ก้าวล้ำ และการออกแบบที่สะท้อนอนาคต บทความนี้จะพาทุกท่านดำดิ่งสู่โลกของสุดยอด ซูเปอร์คาร์แห่งอนาคต ที่ไม่เพียงเป็นเพียงยานพาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าและแรงปรารถนาที่ไม่สิ้นสุด เราจะมาเจาะลึกถึงคุณสมบัติเด่น ประสิทธิภาพเหนือระดับ และตำแหน่งทางการตลาดของแต่ละรุ่น ที่ทำให้พวกมันโดดเด่นท่ามกลางหมู่ดาวในกาแล็กซีของ รถสปอร์ตสมรรถนะสูง
ตลาด รถยนต์ไฮบริดสมรรถนะสูง กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผู้ผลิตชั้นนำต่างมุ่งมั่นที่จะผสานรวมพลังจากเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อสร้างสรรค์ ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ ที่ทั้งทรงพลังและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยการวิเคราะห์เชิงลึก ผมได้คัดเลือก 6 สุดยอดซูเปอร์คาร์ที่พร้อมจะสร้างนิยามใหม่ให้กับวงการยานยนต์ในปี 2025 นี้ ไม่ว่าจะเป็นนักสะสม ผู้หลงใหลความเร็ว หรือนัก ลงทุนในรถสปอร์ต ที่มองหาโอกาส พวกมันคือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม
Ferrari 296 GTB: บทใหม่ของพยศลูกผสม
เมื่อเอ่ยถึง Ferrari หัวใจของนักขับขี่ทั่วโลกต่างเต้นระรัวเสมอ และสำหรับ 296 GTB นี่คือการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่กล้าหาญและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม แม้จะเปิดตัวไปเมื่อปี 2022 แต่ในปี 2025 Ferrari 296 GTB ยังคงเป็นมาตรฐานของ ซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์วางกลาง ที่ไม่เพียงแต่สืบทอดตำนาน GTB แต่ยังสร้างเส้นทางใหม่ด้วยหัวใจ V6 ทวินเทอร์โบขนาด 2.9 ลิตรที่สร้างสรรค์พละกำลังมหาศาล 653 แรงม้า ซึ่งเป็นครั้งแรกของม้าลำพองกับเครื่องยนต์ V6 ในรถโปรดักชั่น
สิ่งที่ทำให้ 296 GTB แตกต่างอย่างแท้จริงคือการผสานรวมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 167 แรงม้าเข้ากับเครื่องยนต์ V6 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เกิดพละกำลังรวมสูงสุดถึง 830 แรงม้า (619 กิโลวัตต์) และแรงบิด 740 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขบนกระดาษ แต่เป็นการรับประกัน สมรรถนะการขับขี่ ที่ดุดัน ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม. ระบบส่งกำลัง 8 สปีดแบบคลัตช์คู่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนล้อหลังโดยตรง สร้างการตอบสนองที่ฉับไวและต่อเนื่อง
แต่พลังงานไฟฟ้าไม่ได้มีไว้แค่เพิ่มแรงม้าเท่านั้น 296 GTB ยังสามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 25 กม. ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในเมืองใหญ่ หรือเมื่อต้องการขับขี่อย่างเงียบสงบ นวัตกรรมยานยนต์ 2025 ของ Ferrari ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น การออกแบบภายนอกของ 296 GTB คือการผสมผสานความสง่างามตามแบบฉบับ Ferrari เข้ากับฟังก์ชันการใช้งานทางอากาศพลศาสตร์ที่ล้ำสมัย ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่คมเฉียบ พร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านข้าง ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มแรงกดและระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสารคืออาณาจักรแห่งความทันสมัยและเรียบง่าย ด้วยหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 16 นิ้วที่โดดเด่นกลางแดชบอร์ด และหน้าจอขนาดเล็กหลังพวงมาลัย ให้ข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน เบาะนั่งสปอร์ตโอบกระชับร่างกาย ให้ความมั่นใจในทุกโค้ง การขับขี่ Ferrari 296 GTB คือการสัมผัสประสบการณ์ที่หลอมรวมประเพณีเข้ากับอนาคต ถือเป็น วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด ที่ควรค่าแก่การครอบครองอย่างแท้จริงในปี 2025
Porsche 911 GT3 RS: จิตวิญญาณสนามแข่งในร่างสตรีทคาร์
ในโลกที่รถยนต์จำนวนมากกำลังมุ่งหน้าสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและไฮบริด Porsche 911 GT3 RS ยังคงยืนหยัดเป็นเหมือนประภาคารแห่งความบริสุทธิ์ของ รถสปอร์ตสำหรับสนามแข่ง แม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 แต่ในเวอร์ชันล่าสุดและที่ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2025 GT3 RS ก็ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์การขับขี่ที่ดิบ เที่ยงตรง และปราศจากสิ่งรบกวน ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน 4.0 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ (Naturally Aspirated) ที่ให้กำลังสูงสุด 520 แรงม้า และแรงบิด 470 นิวตันเมตร นี่คือบทเพลงสุดท้ายที่ไพเราะของเครื่องยนต์สันดาปภายในที่เน้นรอบสูงและการตอบสนองอันฉับไว
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 312 กม./ชม. อาจดูไม่หวือหวาเท่าซูเปอร์คาร์ไฮบริดบางรุ่น แต่ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด Porsche 911 GT3 RS ถูกสร้างมาเพื่อสนามแข่งโดยเฉพาะ ทุกชิ้นส่วนถูกปรับแต่งเพื่อเพิ่ม สมรรถนะการขับขี่ ให้ถึงขีดสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตที่แข็งแกร่ง เบรกคาร์บอนเซรามิกที่ให้ประสิทธิภาพการหยุดรถที่เหนือชั้น และที่โดดเด่นที่สุดคือปีกหลังขนาดใหญ่ที่ทำงานร่วมกับหลักอากาศพลศาสตร์ทั้งคัน สร้างแรงกดมหาศาลเพื่อยึดเกาะถนนในทุกย่านความเร็วสูง
การตกแต่งภายในของ GT3 RS ถูกลดทอนลงเพื่อลดน้ำหนัก เบาะนั่งแบบ Bucket Seat ที่โอบกระชับร่างกาย พวงมาลัย Alcantara และมาตรวัดที่เน้นข้อมูลการขับขี่เป็นหลัก ทั้งหมดนี้สะท้อนปรัชญา “Form Follows Function” อย่างแท้จริง สำหรับนักขับที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถผลักดันขีดจำกัดได้บนสนามแข่งและยังคงความพิเศษบนท้องถนน GT3 RS คือตัวเลือกที่ไร้คู่แข่ง มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นเครื่องมือที่แม่นยำ เป็น รถยนต์สะสม ที่มีคุณค่าและเป็นหนึ่งในการ ลงทุนในรถสปอร์ต ที่ชาญฉลาด เพราะความบริสุทธิ์ของเครื่องยนต์ NA กำลังจะกลายเป็นตำนาน การเป็นเจ้าของ GT3 RS ในปี 2025 คือการครอบครองประวัติศาสตร์แห่ง วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด ที่จะถูกจดจำไปอีกนาน
Lamborghini Huracan Tecnica: สะพานเชื่อมสู่ความสมบูรณ์แบบ
ในขณะที่ Lamborghini กำลังก้าวสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง Lamborghini Huracan Tecnica ที่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 2022 ยังคงเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของ รถสปอร์ตสายพันธุ์ดุ ด้วยเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร ที่ยังคงหายใจเองได้อย่างอิสระ Tecnica คือการยกย่องให้กับเครื่องยนต์ในตำนานนี้ พร้อมกับการปรับปรุงด้านเทคนิคที่ทำให้มันเป็น Huracan ที่สมดุลที่สุดรุ่นหนึ่ง มันถูกวางตำแหน่งให้เป็น “สะพาน” ระหว่างรุ่น EVO RWD ที่เน้นความสนุกในการขับขี่ และ STO ที่เน้นสนามแข่งอย่างสุดโต่ง ด้วยพละกำลัง 640 แรงม้า และระบบขับเคลื่อนล้อหลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด มันสามารถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 325 กม./ชม.
Tecnica ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มแรงม้า แต่เป็นการปรับปรุงแพ็กเกจโดยรวม การออกแบบภายนอกมีความดุดันและสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ช่องระบายอากาศที่ออกแบบใหม่ กันชนหน้า/หลังที่ปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์ และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ทุกองค์ประกอบไม่เพียงแต่สร้างรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขาม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศและแรงกด การปรับปรุงระบบ LDVI (Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata) ทำให้ Tecnica มีการควบคุมและเสถียรภาพที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะบนถนนหรือในสนามแข่ง มันมอบ ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ ที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยอารมณ์
ห้องโดยสารภายในยังคงความหรูหราแบบ Lamborghini ด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่ให้การรองรับที่ดีเยี่ยม จอแสดงผลดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้วสำหรับมาตรวัดความเร็ว และจอแสดงผลกลางขนาด 8.4 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้มันยังคงเป็น ซูเปอร์คาร์ที่ใช้งานได้จริง ในชีวิตประจำวัน Lamborghini Huracan Tecnica ในปี 2025 ยังคงเป็นหนึ่งใน รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่มอบความตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมกับความพิเศษของเครื่องยนต์ V10 อันเป็นเอกลักษณ์ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด ที่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ครบถ้วน ก่อนที่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านจะมาถึงอย่างเต็มตัว
McLaren Artura: การปฏิวัติไฮบริดจาก Woking
McLaren ไม่ใช่แค่ผู้ผลิต ซูเปอร์คาร์ เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีที่ผลักดันขีดจำกัดของ ประสิทธิภาพการขับขี่ และ McLaren Artura ที่เปิดตัวในปี 2021 คือหลักฐานที่ชัดเจนถึงวิสัยทัศน์ดังกล่าว ในปี 2025 Artura ยังคงเป็นตัวแทนของ ซูเปอร์คาร์ไฮบริด ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมดที่เรียกว่า MCLA (McLaren Carbon Lightweight Architecture) ซึ่งเป็นโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ที่เบาและแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ทำให้ Artura มีน้ำหนักตัวที่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฮบริดทั่วไป
หัวใจของ Artura คือระบบส่งกำลังแบบไฮบริด V6 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังรวม 680 แรงม้า แรงบิด 720 นิวตันเมตร มันสามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 กม./ชม. ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงศักยภาพอันมหาศาลของ เทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูง ของ McLaren แต่สิ่งที่ทำให้ Artura แตกต่างคือการเป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดคันแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมกับระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) และระบบเบรกแบบ Regenerative ที่ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ นี่คือการผสมผสานประสิทธิภาพเข้ากับความยั่งยืนอย่างแท้จริง ทำให้มันเป็นหนึ่งใน นวัตกรรมยานยนต์ 2025 ที่โดดเด่นที่สุด
Artura ถูกออกแบบมาเพื่อมอบ ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ ที่ทั้งทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน และน่าตื่นเต้น ด้วยการตอบสนองที่ฉับไวของมอเตอร์ไฟฟ้าที่เติมเต็มช่องว่างของเทอร์โบแล็ก ทำให้ Artura มอบการส่งกำลังที่ราบรื่นและต่อเนื่องในทุกย่านความเร็ว การออกแบบภายนอกยังคงเอกลักษณ์ของ McLaren ด้วยเส้นสายที่สะอาดตา แต่แฝงไปด้วยหลักอากาศพลศาสตร์ที่ซับซ้อน ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ ด้วยการจัดวางอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย และระบบ infotainment ที่ทันสมัย รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ Artura เป็น ซูเปอร์คาร์แห่งอนาคต ที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องจักรที่เร็ว แต่ยังเป็นยานยนต์ที่ฉลาดและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ถือเป็น วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด ที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็ว ความประหยัด และเทคโนโลยีล้ำสมัย
Maserati MC20: การกลับมาของตรีศูลผู้ยิ่งใหญ่
หลังจากห่างหายจากวงการ ซูเปอร์คาร์ ไปนาน Maserati ได้กลับมาอย่างสง่างามด้วย Maserati MC20 ในปี 2020 และยังคงเป็นหนึ่งใน รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่น่าจับตามองในปี 2025 MC20 ซึ่งย่อมาจาก “Maserati Corse 2020” คือการประกาศศักดาครั้งสำคัญของแบรนด์ตรีศูล ด้วยการสร้างสรรค์เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบขนาด 3.0 ลิตร ที่พัฒนาโดย Maserati เอง ภายใต้ชื่อ “Nettuno” เครื่องยนต์นี้ให้กำลัง 630 แรงม้า และแรงบิด 730 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นหัวใจที่ขับเคลื่อนให้ MC20 ทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 325 กม./ชม.
หัวใจสำคัญของ MC20 คือโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน (Carbon Fiber Monocoque) ที่ทำให้รถมีน้ำหนักเบาเพียง 1,500 กิโลกรัม แต่ยังคงความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการมอบ ประสิทธิภาพการขับขี่ ที่ยอดเยี่ยม ระบบกันสะเทือนแบบอิสระทั้งสี่ล้อ และระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก ช่วยให้ MC20 มีการควบคุมที่แม่นยำและการหยุดรถที่มั่นใจได้ การออกแบบของ MC20 คือการผสมผสานความสง่างามแบบอิตาเลียนเข้ากับความดุดันของ ซูเปอร์คาร์ ประตูแบบปีกผีเสื้อ (Butterfly Doors) เป็นจุดเด่นที่ดึงดูดสายตาและเพิ่มความพิเศษให้กับตัวรถ
Maserati MC20 ไม่ได้มีเพียงรุ่น Coupe เท่านั้น แต่ยังรวมถึง MC20 Cielo (Spider) ซึ่งเป็นรุ่นเปิดประทุนที่มีหลังคาแข็งแบบพับได้ และรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง MC20 Trofeo ที่อาจมาพร้อมเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นและระบบกันสะเทือนที่แข็งแกร่งกว่า ในปี 2025 MC20 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหา รถหรู ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสาน วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด เข้ากับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของอิตาลี มันไม่ใช่แค่รถยนต์ที่เร็ว แต่ยังเป็นผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Maserati ในเวที ซูเปอร์คาร์แห่งอนาคต และเป็นหนึ่งใน การลงทุนในรถสปอร์ต ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างแท้จริง
Chevrolet Corvette C8: ซูเปอร์คาร์จากอเมริกาที่พลิกโฉมวงการ
เมื่อ Chevrolet ตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบของ Corvette จากเครื่องยนต์วางหน้าเป็นเครื่องยนต์วางกลางในรุ่น C8 มันคือการปฏิวัติที่ทำให้วงการ ซูเปอร์คาร์ ต้องหันมาจับตามอง ในปี 2025 Chevrolet Corvette C8 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น Z06 หรือ E-Ray ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริด แสดงให้เห็นว่าอเมริกาก็สามารถสร้างสรรค์ ซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง ที่ทัดเทียมกับคู่แข่งจากยุโรปได้อย่างน่าทึ่ง ในขณะที่รุ่นพื้นฐาน C8 Stingray มาพร้อมเครื่องยนต์ LT2 V8 ขนาด 6.2 ลิตร 495 แรงม้า ที่สามารถเร่งความเร็ว 0-96.5 กม./ชม. (0-60 ไมล์/ชม.) ใน 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 312 กม./ชม. แต่ศักยภาพที่แท้จริงของแพลตฟอร์ม C8 ปรากฏชัดในรุ่นที่เหนือกว่า
Corvette C8 Z06 ได้รับการยกเครื่องใหม่ด้วยเครื่องยนต์ LT6 V8 ขนาด 5.5 ลิตร แบบ Flat-Plane Crank ที่ให้กำลังสูงถึง 670 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ V8 แบบไร้ระบบอัดอากาศที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรถโปรดักชั่น ทำให้ Z06 กลายเป็น ซูเปอร์คาร์ ที่เน้นสนามแข่งอย่างแท้จริง ด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ดุดันและการตอบสนองที่ฉับไว ขณะที่ C8 E-Ray คือการก้าวเข้าสู่โลกของ ไฮบริดสมรรถนะสูง อย่างเต็มตัว โดยผสานเครื่องยนต์ LT2 V8 เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อหน้า ทำให้ได้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) และพละกำลังรวม 655 แรงม้า ซึ่งเป็น Corvette รุ่นแรกที่มีระบบ AWD และ เทคโนโลยีไฮบริด
การออกแบบภายนอกของ C8 มีความสวยงามและโฉบเฉี่ยว ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ที่กลมกลืนกับตัวรถ กระจกหลังขนาดใหญ่ที่เผยให้เห็นความงามของเครื่องยนต์ และช่องระบายอากาศที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ C8 ดูโดดเด่น ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ ด้วยการจัดวางปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่าย และแผงหน้าปัดดิจิทัลที่ทันสมัย Corvette C8 ในปี 2025 ไม่เพียงแต่มอบ ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ ด้วย ประสิทธิภาพการขับขี่ ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังมาพร้อม “ราคาซูเปอร์คาร์” ที่เข้าถึงได้มากกว่าคู่แข่งจากยุโรปอย่างชัดเจน ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ ซูเปอร์คาร์แห่งอนาคต ที่ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะ และความคุ้มค่าได้อย่างลงตัว เป็น การลงทุนในรถสปอร์ต ที่ฉลาดและสนุกสนาน
สรุป: ยนตรกรรมที่ไร้ขีดจำกัดแห่งปี 2025
ปี 2025 คือปีที่ ซูเปอร์คาร์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานยนต์ที่เร็วที่สุด แต่เป็นแพลตฟอร์มที่รวมเอา นวัตกรรมยานยนต์ ล่าสุดเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ตั้งแต่ Ferrari 296 GTB ที่นำเสนอ เทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูง ที่เป็นมาตรฐานใหม่ ไปจนถึง Porsche 911 GT3 RS ที่ยังคงยึดมั่นใน วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด ของเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศ Lamborghini Huracan Tecnica ที่เป็นบทเพลงแห่ง V10 McLaren Artura ที่นิยามใหม่ของประสิทธิภาพไฮบริด Maserati MC20 ที่แสดงการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ และ Chevrolet Corvette C8 ที่พลิกโฉมวงการด้วยสมรรถนะระดับโลกในราคาที่เข้าถึงได้ ทุกรุ่นล้วนนำเสนอเอกลักษณ์และ ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ ที่แตกต่างกัน แต่มีจุดร่วมคือการผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่รถยนต์จะทำได้
ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในความเร็ว เทคโนโลยี หรือการออกแบบที่ไร้กาลเวลา ซูเปอร์คาร์แห่งอนาคต เหล่านี้คือคำตอบสำหรับความต้องการของคุณ พวกมันไม่ได้เป็นเพียงการเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B แต่เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความตื่นเต้น และความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของผลงาน วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด ที่ไม่เหมือนใคร
หากคุณกำลังมองหา การลงทุนในรถสปอร์ต ที่ไม่เพียงแต่สร้างผลตอบแทนทางอารมณ์ แต่ยังอาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือเพียงต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เราขอเชิญชวนให้คุณมาสัมผัสและทดลองขับขี่ ซูเปอร์คาร์ ในฝันเหล่านี้ที่โชว์รูมของเรา ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ ราคาซูเปอร์คาร์ รายละเอียดทางเทคนิค หรือแม้กระทั่งช่วยคุณวางแผน สินเชื่อรถหรู เพื่อให้คุณได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งความเร็วและหรูหราได้อย่างราบรื่น อย่ารอช้า โอกาสที่จะได้ครอบครอง ซูเปอร์คาร์แห่งอนาคต กำลังรอคุณอยู่!

