เปิดคำพิพากษาศาลสั่งจำคุก ปู มัณฑนา 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีฉ้อโกง หลอกร่วมลงทุนอาหารเสริม ด้าน เจ้าตัวลุ้นประกัน ศาลส่งเรื่องประกันให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำสั่ง
วันที่ 25 พ.ย.2568 ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.2122/2567 ที่ น.ส.พัชมณฑ์ จิรธัญญ์เทธิน โจทก์ ยื่นฟ้อง นางมัณฑนา หิมะทองคำ จำเลย ข้อหาฉ้อโกง… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่
โดยโจทก์ฟ้องว่า จำเลยหลอกลวงโจทก์ ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริงซึ่งควรบอกแจ้งแก่โจทก์ว่า จำเลยประกอบธุรกิจแบรนด์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และได้ชักชวนโจทก์ให้ร่วมลงทุนกับจำเลยโดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง
ความจริงแล้วจำเลยไม่ได้ประกอบธุรกิจตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เป็นเพียงกลอุบายเพื่อให้ได้ทรัพย์ไปจากโจทก์เท่านั้น จากการหลอกลวงทำให้โจทก์หลงเชื่อ จึงได้โอนเงินรวมจำนวน 1,160,000 บาท ให้แก่จำเลย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ขอให้ลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
อ่านข่าว : ด่วน ศาลสั่งจำคุก ปู มัณฑนา 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีฉ้อโกงหลอกลงทุน
ศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วคดีมีมูล จึงประทับฟ้องไว้พิจารณาพิพากษา ชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธ โดยได้รับการปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณา ทั้งนี้ คำพิพากษาสรุปว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ให้จำคุก 2 ปี
ภายหลังฟังคำพิพากษา จำเลยยื่นขอคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นอุทธรณ์ ศาลแขวงพระนครใต้ มีคำสั่งให้ส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาสั่ง… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่
เจาะลึกภูมิทัศน์อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: กลยุทธ์พิชิตความสำเร็จในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการพลิกผันและปรับตัวของตลาดมานับครั้งไม่ถ้วน จากความผันผวนของปี 2566 และความท้าทายต่อเนื่องในปี 2567 ที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังก้าวเข้าสู่ปี 2568 ด้วยภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผู้ที่สามารถอ่านเกมและปรับตัวได้เท่านั้นจึงจะเป็นผู้ชนะตัวจริงในสมรภูมินี้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงแนวโน้มสำคัญ กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ และภาพรวมของผู้เล่นหลักในตลาด อสังหาริมทรัพย์ไทย สำหรับปี 2568 เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนและเตรียมพร้อมสำหรับการ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 2568 อย่างชาญฉลาด
จากความท้าทายสู่การฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ: ภาพรวมตลาดปี 2568
ปี 2566 และ 2567 ถือเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายราย ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2568 เราเริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนหลายประการ:
การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว: การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและกลุ่มตลาดใหม่ๆ เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นความต้องการในตลาดเช่าและตลาดซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยเฉพาะในหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก
เมกะโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐาน: โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครือข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงโครงการ EEC ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ และสร้าง ทำเลทองอสังหาฯ ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น
นโยบายภาครัฐ: มาตรการส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงความเป็นไปได้ในการทบทวน ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2568 หรือมาตรการผ่อนปรนอื่นๆ อาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของตลาด
ความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังคงมีอยู่: แม้กำลังซื้อโดยรวมอาจเผชิญกับความท้าทาย แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มีความต้องการที่แท้จริง และกลุ่มผู้ซื้อที่มองหา คอนโดหรู หรือ บ้านเดี่ยวพรีเมียม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีอยู่ เช่น ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ต้นทุนการพัฒนาโครงการที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ให้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น การ วิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ 2568 จึงต้องลงลึกถึงรายละเอียดของแต่ละเซ็กเมนต์
กลยุทธ์แห่งชัยชนะ: องค์ประกอบสำคัญของ “ผู้ชนะตัวจริง” ปี 2568
จากบทเรียนในอดีตและแนวโน้มปัจจุบัน “ผู้ชนะตัวจริง” ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 จะไม่ใช่แค่ผู้ที่มีรายได้หรือกำไรสูงสุดเท่านั้น แต่คือผู้ที่สามารถปรับตัว สร้างสรรค์ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืน โดยมีกลยุทธ์สำคัญดังนี้:
การทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป:
ผู้บริโภคในยุค 2025 มีความต้องการที่ซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น พวกเขามองหามากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือ “ไลฟ์สไตล์” และ “ประสบการณ์”
สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellness): โครงการที่มีพื้นที่สีเขียว สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ และการออกแบบที่ส่งเสริมสุขภาวะที่ดี จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยีและ Smart Home: การผนวกเทคโนโลยี Smart Home Technology เข้ากับที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมอัตโนมัติ ความปลอดภัยอัจฉริยะ หรือการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ลูกค้าคาดหวัง
ความยืดหยุ่นในการใช้งาน (Flexibility): พื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามความต้องการ หรือโครงการที่รองรับการทำงานแบบ Hybrid Work จะตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่
ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม (Sustainability): ผู้บริโภคมีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โครงการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน ที่ใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และมีมาตรฐานการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม จะสร้างความแตกต่างและดึงดูดใจผู้ซื้อได้
การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ (Digital Transformation & PropTech):
ยุคดิจิทัลบังคับให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องก้าวทัน การนำ Digital Transformation อสังหาฯ และ PropTech ไทย มาใช้จะเป็นตัวเปลี่ยนเกม
การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics): ผู้ประกอบการที่สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มตลาด และคู่แข่ง จะสามารถพัฒนาโครงการที่ตรงจุดและทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แพลตฟอร์มดิจิทัล: การลงทุนในแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ การใช้ AI ในการบริการลูกค้า หรือการใช้เทคโนโลยี AR/VR ในการนำเสนอโครงการ จะช่วยเพิ่มช่องทางเข้าถึงลูกค้าและสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
การบริหารจัดการโครงการอัจฉริยะ: การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการการก่อสร้าง การดำเนินงานอาคาร และการบำรุงรักษา ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าให้กับทรัพย์สิน
การบริหารจัดการต้นทุนและกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ:
ในภาวะที่ต้นทุนการก่อสร้างและดอกเบี้ยยังคงผันผวน การบริหารจัดการการเงินอย่างรัดกุมเป็นหัวใจสำคัญ
การปรับปรุงกระบวนการ (Operational Efficiency): การลดความสูญเปล่าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้างไปจนถึงการส่งมอบโครงการ
การกระจายความเสี่ยง: การลงทุนในหลากหลายเซ็กเมนต์หรือประเภททรัพย์สิน เพื่อลดการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป
การสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income): การพัฒนาโครงการที่มีรายได้ค่าเช่าอย่างต่อเนื่อง เช่น โรงแรม สำนักงานให้เช่า หรือพื้นที่ค้าปลีก (ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทอย่าง เซ็นทรัลพัฒนา หรือกลุ่ม Frasers Property) จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
การมุ่งเน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Markets):
ในขณะที่การแข่งขันในตลาดแมสยังคงรุนแรง การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการพิเศษจะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ
อสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงอายุ (Elderly Care Living): สังคมสูงวัยของไทยกำลังเติบโต โครงการที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ ทั้งในด้านการอยู่อาศัย การดูแลสุขภาพ และกิจกรรมทางสังคม จะมีศักยภาพสูง
Co-living/Co-working Spaces: ตอบรับเทรนด์การใช้ชีวิตและการทำงานที่ยืดหยุ่นของคนรุ่นใหม่และกลุ่ม Digital Nomads
Luxury & Super Luxury Segments: ตลาด คอนโดหรู และ บ้านเดี่ยวพรีเมียม ยังคงแข็งแกร่งและไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก โดยเฉพาะจากกลุ่มกำลังซื้อสูงทั้งในและต่างประเทศ
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม: โกดังสินค้า, ศูนย์กระจายสินค้า, และ Data Center ยังคงมีความต้องการสูงจากการเติบโตของ E-commerce และ Digital Transformation
ภาพรวมผู้เล่นหลักและกลยุทธ์ในปี 2568
จากบทเรียนปี 2566 และ 2567 ที่ผ่านมา หลายบริษัทได้เร่งปรับโครงสร้างและกลยุทธ์เพื่อรับมือกับปี 2568 ผู้ประกอบการที่เคยเผชิญกับรายได้ที่ลดลง เช่น LPN, Eastern Star, Raimon Land, Lalin Property, Major Development, หรือ Siamese Asset อาจจะต้องเร่งพลิกฟื้นและสร้างโมเมนตัมใหม่ โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง หรือการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น
ในขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ที่มีศักยภาพแข็งแกร่งอย่าง แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (Land & Houses) ซึ่งมีจุดเด่นด้านการบริหารจัดการต้นทุนและการสร้างกำไรที่มั่นคงแม้ในภาวะตลาดผันผวน และการมีพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่แข็งแกร่ง จะยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำที่น่าจับตาในด้านความสามารถในการทำกำไร ส่วน ศุภาลัย (Supalai) ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการพัฒนาโครงการที่หลากหลายและมีราคาเข้าถึงง่าย ก็ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดได้อย่างดีเยี่ยมด้วยกลยุทธ์การขยายตัวที่รอบคอบ
เอพี (ไทยแลนด์) (AP (Thailand)) ยังคงเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในด้านความสามารถในการขายและสร้างยอดโอนที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบในเมือง การปรับตัวเข้ากับความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าและการนำเสนอโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยคือหัวใจสำคัญของพวกเขา
แสนสิริ (Sansiri) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา ด้วยการขยายตลาดและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่โครงการระดับ Affordable ไปจนถึง Super Luxury และเน้นกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ จะยังคงเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด
กลุ่มบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ในการขยายพอร์ตโฟลิโอไปสู่ธุรกิจที่มีรายได้ประจำ (Recurring Income) อย่าง เซ็นทรัลพัฒนา (Central Pattana) ที่มีศูนย์การค้า โรงแรม และพื้นที่สำนักงานให้เช่า จะยังคงมีรากฐานที่แข็งแกร่งในการสร้างกำไรและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน รวมถึง Frasers Property (ประเทศไทย) ซึ่งมีพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย ทั้งอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม
สำหรับผู้ประกอบการรายอื่นๆ เช่น พฤกษา โฮลดิ้ง (Pruksa Holding), เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC Asset Corporation), ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (Origin Property), ควอลิตี้ เฮ้าส์ (Quality Houses), และ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (Property Perfect) ก็กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทาย ทั้งการเน้นการพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้า การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง การเพิ่มมูลค่าให้แก่โครงการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และการแสวงหา โอกาสลงทุนอสังหาฯ ใหม่ๆ ที่สอดรับกับเมกะเทรนด์
แนวโน้มสำคัญและโอกาสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568
ตลาดเช่ากลับมาคึกคัก: การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการกลับมาของนักเรียน/นักศึกษาต่างชาติ จะช่วยหนุน ตลาดเช่าอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมืองและหัวเมืองท่องเที่ยว ทำให้ Yield อสังหาริมทรัพย์ ในบางพื้นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
การลงทุนจากต่างชาติ: เมื่อเศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น อสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ จะกลับมามองหาโอกาสในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการระดับบนและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนขนาดใหญ่
โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use Development): ยังคงเป็นที่นิยม เพราะตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ครบวงจรในที่เดียว ลดการเดินทาง และสร้างความสะดวกสบายสูงสุด
อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ (Health & Wellness Real Estate): จะเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ตอบรับความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นของประชากร
นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Innovation): การนำเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ๆ มาใช้ในการออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารจัดการ จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบ
สรุป: ปี 2568 กับบทบาทของ “ผู้เชี่ยวชาญ” และ “การปรับตัว”
ปี 2568 ไม่ใช่ปีที่ง่ายดายนัก แต่ก็เต็มไปด้วย โอกาสลงทุนอสังหาฯ สำหรับผู้ที่เตรียมพร้อมและมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน ผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นในการทำความเข้าใจตลาด ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด และบริหารจัดการการเงินอย่างรอบคอบ จะสามารถฝ่าคลื่นลมและสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนได้
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่า การตัดสินใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ต้องอาศัยข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ที่แม่นยำ หากคุณกำลังมองหา โอกาสลงทุนอสังหาฯ ผลตอบแทนสูง หรือต้องการคำแนะนำในการวาง กลยุทธ์อสังหาฯ เพื่อพิชิตเป้าหมายในปี 2568 และปีต่อๆ ไป อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เราพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรในการสร้างความมั่งคั่งในโลกอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้
หากคุณต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568 หรือวางแผนกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับพอร์ตของคุณ โปรดติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี เราพร้อมช่วยคุณนำทางในตลาดที่ท้าทายนี้
