• Privacy Policy
  • Sample Page
News
No Result
View All Result
No Result
View All Result
News
No Result
View All Result

ทหารพราน 22 ลุยน้ำเข้าช่วยชุมชน มอบถุงยังชีพและอาหารพร้อมทาน

admin79 by admin79
November 28, 2025
in Uncategorized
0
ทหารพราน 22 ลุยน้ำเข้าช่วยชุมชน มอบถุงยังชีพและอาหารพร้อมทาน

ทหารพรานกองร้อยเฉพาะกิจ 22 เดินหน้าลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง พ.อ.อุเทน จีนทองหลาง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 22 พร้อมกำลังพลจากหมวดทหารพรานหญิง ฉก.ทพ.22, ร้อย.ทพ.2204 และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม

คณะได้สอบถามความเป็นอยู่ พร้อมมอบยาเวชภัณฑ์ อาหารปรุงสุก และน้ำดื่มให้แก่ชาวบ้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ยังคงไม่ลดลง และยังมีครัวเรือนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ

อสังหาฯ ไทย 2568: เจาะลึกกลยุทธ์ผู้ชนะในสมรภูมิที่พลิกผัน

ในฐานะที่ผมคลุกคลีอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่าปี 2568 นี้ ไม่ใช่เพียงแค่การเริ่มต้นศักราชใหม่ แต่เป็นห้วงเวลาแห่งการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งสำคัญของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย หลังจากที่ตลาดต้องเผชิญกับความท้าทายอันหนักหน่วงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 และตลอดปี 2567 ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงทรงตัวสูง สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังคงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ หลายคนอาจมองว่านี่คือช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจเกม ผู้ที่พร้อมจะปรับตัว และผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล นี่คือโอกาสทองในการสร้างความได้เปรียบและก้าวขึ้นเป็น “ผู้ชนะตัวจริง” ในสมรภูมิที่กำลังพลิกผันนี้

เราได้เห็นภูมิทัศน์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสองปีที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อจากต่างประเทศและกำลังซื้อภายในที่แข็งแกร่ง วันนี้ตลาดกลับกลายเป็นสนามทดสอบความแกร่งทางกลยุทธ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ไม่ใช่เพียงแค่การเร่งเปิดโครงการใหม่ แต่เป็นการสร้างมูลค่าที่แท้จริง การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด และการตอบสนองความต้องการของตลาดที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ข้อมูลที่เราเคยรวบรวมจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 41 แห่งเมื่อปี 2566 ชี้ให้เห็นถึงรอยร้าวของตลาดอย่างชัดเจน ด้วยรายได้รวมที่ลดลงเล็กน้อยและรายได้จากการขายที่หดตัวอย่างน่าตกใจ นั่นคือบทเรียนสำคัญที่ผลักดันให้ผู้ประกอบการต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ในปี 2568 นี้

พลิกเกมธุรกิจ: รายได้รวมไม่ใช่แค่ยอดขาย แต่คือ Ecosystem

เมื่อย้อนมองไปที่ภาพรวมรายได้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 เราพบว่ารายได้รวมของทั้ง 41 บริษัทลดลงเล็กน้อยจาก 376,141 ล้านบาท เหลือ 371,560 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้ไม่ได้สะท้อนถึงวิกฤตโดยตรง แต่เป็นสัญญาณเตือนว่ายุคของการพึ่งพารายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวได้สิ้นสุดลงแล้ว ในปี 2568 นี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จในการรักษาระดับรายได้รวมหรือแม้แต่ทำให้เติบโตได้นั้น คือบริษัทที่เข้าใจและเริ่มสร้าง “ระบบนิเวศอสังหาริมทรัพย์” (Real Estate Ecosystem) ของตนเองอย่างแท้จริง

ผู้เล่นชั้นนำหลายรายได้หันมาให้ความสำคัญกับแหล่งรายได้ประจำ (Recurring Income) มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการบริหารจัดการพื้นที่ให้เช่าในโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use Projects) ที่ผสมผสานระหว่างที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และโรงแรม หรือแม้กระทั่งการลงทุนในอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ (Commercial Real Estate) ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว บริษัทอย่าง เซ็นทรัลพัฒนา ที่เร่งเครื่องพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำด้านศูนย์การค้า ก็ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของการสร้าง synergy ระหว่างธุรกิจ ที่ทำให้รายได้โดยรวมมีความยืดหยุ่นและเติบโตได้ แม้ในภาวะที่ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัว

นอกจากนี้ การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ (Joint Ventures) กับทั้งผู้พัฒนาต่างชาติและในประเทศก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มช่องทางรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรู (Luxury Condominium) ในทำเลทองอสังหาฯ หรือการร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น บริการดูแลที่อยู่อาศัย (Property Management Services) หรือแม้แต่ธุรกิจพลังงานสะอาดในโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้สอดรับกับเมกะเทรนด์ด้านความยั่งยืนในอสังหาฯ (Sustainability in Real Estate) บริษัทที่สามารถบริหารพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหลายและมีแหล่งรายได้ที่มั่นคง จะเป็นผู้ที่ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2568 และในอนาคต

เกมขายไม่ง่าย: นวัตกรรมและกลยุทธ์เจาะตลาดคือกุญแจ

หากมองไปที่รายได้จากการขาย (Sales Revenue) ของปี 2566 ภาพที่ปรากฏยิ่งชัดเจนขึ้นว่าตลาดอยู่ในภาวะที่ท้าทายอย่างแท้จริง โดยรายได้จากการขายรวมของทั้ง 41 บริษัทลดลงถึง 11% จาก 299,979 ล้านบาท เหลือ 268,460 ล้านบาท และที่น่าตกใจคือมีถึง 30 บริษัทจาก 41 บริษัทที่มียอดขายลดลง นั่นหมายความว่ากลยุทธ์การขายแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับปี 2568

ผู้ชนะในสมรภูมิการขายปี 2568 คือผู้ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างลึกซึ้ง และพร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ “ใช่” ในราคาที่ “เหมาะสม” รวมถึงใช้ “ช่องทาง” ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างเช่น บริษัทอย่าง เอพี (ไทยแลนด์) ที่แม้จะอยู่ในภาวะตลาดที่ยากลำบาก แต่ก็ยังสามารถรักษายอดขายในระดับสูงได้จากการที่สามารถจับตลาดบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม (Premium Detached House) และทาวน์โฮมได้ดี รวมถึงการแตกไลน์สินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

กลยุทธ์สำคัญที่เห็นได้ชัดในปี 2568 คือ:

การปรับ Portfolio สินค้าให้ยืดหยุ่น: ผู้พัฒนาโครงการไม่สามารถยึดติดกับประเภทสินค้าใดสินค้าหนึ่งอีกต่อไป ต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการพัฒนาโครงการ (Real Estate Development) ให้สอดคล้องกับอุปสงค์และอุปทาน (Supply and Demand) ที่เปลี่ยนแปลงไป การพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงล่างในเมืองรอง หรือบ้านเดี่ยวขนาดเล็กลงในทำเลที่มีศักยภาพ แต่เข้าถึงการเดินทางสะดวกสบาย กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่าย

การใช้เทคโนโลยีอสังหาฯ (PropTech) เต็มรูปแบบ: การนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในกระบวนการขาย ตั้งแต่การสร้างประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality Tours) การตลาดแบบ Personalization การใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และการทำสัญญาซื้อขายออนไลน์ ล้วนเป็นสิ่งที่บริษัทชั้นนำนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน การทำ Digital Transformation อสังหาฯ ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น

การเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Home Loan) ที่ง่ายขึ้น: บริษัทอสังหาฯ จำนวนมากหันมาทำงานร่วมกับสถาบันการเงิน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น รวมถึงการออกแคมเปญส่งเสริมการขายที่สร้างแรงจูงใจและลดภาระผู้ซื้อโดยตรง

การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market): ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ (Active Aging) ที่ต้องการที่อยู่อาศัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการ Work-Life Balance หรือกลุ่มนักลงทุนอสังหาฯ ที่มองหาผลตอบแทนจาก Property for Rent การออกแบบโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะนี้ ทำให้สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง

แสนสิริ และ ศุภาลัย ก็ยังคงเป็นผู้เล่นที่น่าจับตา ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งและการพัฒนาโครงการที่หลากหลาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดที่อยู่อาศัยไว้ได้

แกะรอยกำไร: ประสิทธิภาพการบริหารและมูลค่าที่ยั่งยืน

สุดท้ายแต่สำคัญที่สุด คือเรื่องของกำไรสุทธิ (Real Estate Profit) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จที่แท้จริงของการดำเนินธุรกิจ ในปี 2566 กำไรสุทธิรวมของ 41 บริษัทลดลงถึง 11% จาก 49,602 ล้านบาท เหลือ 44,165 ล้านบาท และที่น่ากังวลคือมีถึง 12 บริษัทที่ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี รวมถึงอีก 20 บริษัทที่กำไรลดลง นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าการทำกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่นั้นไม่ง่ายเหมือนเดิม

ผู้ชนะที่แท้จริงในปี 2568 คือผู้ที่สามารถสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงแค่การขายได้ในปริมาณมาก แต่ต้องบริหารจัดการต้นทุน (Cost Management) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง การบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital Management) และการเลือกทำเลและประเภทโครงการที่มีอัตรากำไรสูง ถือเป็นหัวใจสำคัญ

แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด ได้แสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาดในการบริหารจัดการสินทรัพย์ โดยการขายโรงแรมเข้ากองทุน ทำให้สามารถรักษาระดับกำไรสูงสุดไว้ได้ แม้รายได้จากการขายอสังหาฯ จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือตัวอย่างของการสร้างมูลค่าจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ และการสร้างกระแสเงินสดผ่านกลยุทธ์ที่ไม่ใช่แค่การขายโครงการใหม่

นอกจากนี้ บริษัทอย่าง ศุภาลัย และ เอพี (ไทยแลนด์) ก็ยังคงเป็นผู้ที่สามารถทำกำไรได้ในระดับสูง ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการโครงการ การควบคุมต้นทุน และการทำตลาดที่มีประสิทธิภาพ การที่ แสนสิริ มีกำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 42% ในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างองค์กร การบริหารจัดการหนี้ และการมุ่งเน้นโครงการที่มีอัตรากำไรดี

สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในปี 2568 คือ:

ความยั่งยืนและการดำเนินงานตามหลัก ESG (Environmental, Social, Governance): นักลงทุนและผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานสะอาด และการสร้างชุมชนที่น่าอยู่ ไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการและลดความเสี่ยงในระยะยาว บริษัทที่บูรณาการ ESG ในอสังหาฯ เข้ากับการดำเนินงาน จะได้รับความไว้วางใจและดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น

การบริหารจัดการหนี้และกระแสเงินสด: ในสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูง การมีวินัยทางการเงิน การลดภาระหนี้ และการบริหารกระแสเงินสดให้มีสภาพคล่องสูง เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดและเติบโต

การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม: การนำ PropTech มาใช้ไม่เพียงแค่เรื่องการขาย แต่ยังครอบคลุมถึงการบริหารจัดการอาคาร การบำรุงรักษา และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

ภูมิทัศน์อสังหาริมทรัพย์ไทย 2568: โอกาสที่มาพร้อมความท้าทาย

มองไปข้างหน้า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 ยังคงเป็นตลาดที่มีพลวัตสูงและเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับผู้ที่พร้อมจะคว้าไว้ แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลายประการ เช่น นโยบายรัฐบาลที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนภาคอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพที่ได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม

การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอสังหาฯ ท่องเที่ยว เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และวิลล่าตากอากาศในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ นอกจากนี้ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและกลุ่ม CLMV ที่มองหาโอกาสลงทุนในประเทศไทย ยังคงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูงสำหรับคอนโดมิเนียมหรูและบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม

ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในปี 2568 จะต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในแนวโน้มอสังหาฯ ทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว มีความยืดหยุ่นในการพัฒนาโครงการ และให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าที่ยั่งยืน รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจทุกมิติ

สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ และผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในตลาดนี้ ปี 2568 คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการศึกษาข้อมูลเชิงลึก และพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบในโครงการที่มีศักยภาพ และอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เพราะในสมรภูมิที่พลิกผันนี้ “ผู้ชนะ” ไม่ได้มาจากขนาดที่ใหญ่ที่สุดเสมอไป แต่มาจากความฉลาดในการดำเนินกลยุทธ์ การปรับตัว และวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล

หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่กำลังมองหาทิศทางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเพื่อนำพาธุรกิจของท่านก้าวผ่านความท้าทายและคว้าโอกาสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 นี้ อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับข้อมูลเชิงกลยุทธ์ที่แม่นยำและเป็นประโยชน์ เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกโอกาสสำคัญในสมรภูมินี้.

Previous Post

กสทช. ออกมาตรการเยียวยาน้ำท่วม ให้เน็ตฟรี 10GB และโทรฟรี 100 นาที ทุกค่าย

Next Post

“พ่อภราดร” โพสต์ซึ้งให้กำลังใจลูกชาย หลังปิดไมค์ลุกหนีสื่อ ยันลูกไม่ผิด—ทองแท้ไม่กลัวไฟ

Next Post
“พ่อภราดร” โพสต์ซึ้งให้กำลังใจลูกชาย หลังปิดไมค์ลุกหนีสื่อ ยันลูกไม่ผิด—ทองแท้ไม่กลัวไฟ

“พ่อภราดร” โพสต์ซึ้งให้กำลังใจลูกชาย หลังปิดไมค์ลุกหนีสื่อ ยันลูกไม่ผิด—ทองแท้ไม่กลัวไฟ

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • “ทนายเจมส์” ตั้งข้อสงสัย หลังมี 2 สายโทรอ้างเป็นน้องคนสนิทของ “นัทปง” โทรตามจี้ถามเรื่องพินัยกรรมกลางงานศพ!
  • “เสือโคร่งโตเต็มวัย” โผล่ที่ผารักษ์สลัดได จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ชี้เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติ เตือนประชาชนให้ระวังแต่ไม่ต้องตระหนก!!
  • ความเสียหายเศรษฐกิจจากน้ำท่วมหาดใหญ่ พุ่งคาดแตะแสนล้านบาท ขยะตกค้างทะลุ 1 ล้านตัน!
  • หัวหน้าเพื่อไทยโต้ข่าว ยืนยันไม่จริงเรื่องยื่นซักฟอก ขออย่าตื่นตระหนกตามกระแส ชี้ทุกอย่างต้องรอถามที่ประชุม ส.ส. ก่อน
  • โรงงานทำขนมจีนที่ อ.ปาย ระเบิดสนั่น! ชาวบ้านตกใจทั่วพื้นที่

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.