นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการรักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบกับประชาชนจำนวนมาก สำนักงาน กสทช. และผู้ประกอบการค่ายมือถือ ได้ออกมาตรการเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในครั้งนี้
สำหรับประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรี 10 GB และโทรฟรี 100 นาที ระยะเวลา 15 วัน เริ่มวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 โดยระบบจะส่ง SMS ยืนยันสิทธิ์ และสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องกดรับสิทธิ์
สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน ขยายระยะเวลาการใช้งานออกไปอีก 30 วัน และลูกค้าแบบรายเดือน ขยายระยะเวลาการชำระค่าบริการออกไปอีก 30 วัน เพื่อป้องกันการถูกระงับบริการ
สำนักงาน กสทช. จะติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อให้ระบบสื่อสารสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: ถอดรหัสโอกาสและความท้าทายในยุคแห่งการพลิกผัน
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมานานกว่าทศวรรษ ผมเชื่อว่าปี 2568 ไม่ใช่แค่การดำเนินธุรกิจตามปกติอีกต่อไป แต่เป็นห้วงเวลาของการถอดรหัสกลยุทธ์ที่ลึกซึ้ง การปรับตัวอย่างรวดเร็ว และการมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในภูมิทัศน์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หากย้อนมองกลับไป ปี 2566 และ 2567 ถือเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางและความยืดหยุ่นของตลาดในเวลาเดียวกัน แม้ตลาดจะเผชิญกับภาวะชะลอตัวจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง ดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และกำลังซื้อที่ยังคงระมัดระวัง แต่เราก็ได้เห็นถึงความพยายามของผู้ประกอบการที่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อยืนหยัดและเติบโตท่ามกลางกระแสท้าทายเหล่านั้น
ปี 2568 จึงเป็นจุดตัดสำคัญที่ผู้เล่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้องก้าวข้ามกรอบเดิมๆ และมองหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบ ยิ่งไปกว่านั้น การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ แต่ขยายไปสู่การบริหารจัดการที่เน้นประสิทธิภาพ การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บทความนี้จะเจาะลึกถึงภาพรวมตลาด แนวโน้มสำคัญ กลยุทธ์ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และโอกาสการลงทุนที่น่าจับตามองในปี 2568 เพื่อให้คุณเข้าใจเกมนี้ได้อย่างถ่องแท้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ
ภูมิทัศน์เศรษฐกิจมหภาค: แรงขับเคลื่อนและแรงฉุดตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568
ปี 2568 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยยังคงขับเคลื่อนด้วยแรงฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนภาคธุรกิจบริการและอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และคอนโดมิเนียมให้เช่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Mega Projects) โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายและโครงข่ายคมนาคมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนภาคอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัยในพื้นที่ปริมณฑลและภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ละเลยปัจจัยท้าทายที่ยังคงอยู่ อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 เป็นความท้าทายสำหรับทั้งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเรื่องต้นทุนทางการเงิน และผู้ซื้อที่ต้องแบกรับภาระผ่อนที่สูงขึ้น ทำให้การเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังคงเป็นประเด็นสำคัญ กำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ผู้บริโภคจะยังคงให้ความสำคัญกับ “คุณค่า” ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์อสังหาริมทรัพย์มากกว่าแค่ “ราคา” ซึ่งหมายถึงคุณภาพ ทำเล ฟังก์ชันการใช้งาน และบริการหลังการขาย
การเปลี่ยนแปลงพลวัตตลาด: ถอดบทเรียนจากปี 2567 สู่ทิศทางปี 2568
หากย้อนมองปี 2567 เราจะเห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ผ่านจุดต่ำสุดบางส่วนไปแล้ว แต่การฟื้นตัวยังคงเป็นแบบ V-shape ที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลาดมีการแบ่งกลุ่มที่ชัดเจนขึ้น (Market Segmentation) โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับบน (Luxury Segment) และบ้านเดี่ยวราคาแพงยังคงได้รับความสนใจจากกำลังซื้อที่มีความมั่งคั่งสูงและได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่า สวนทางกับตลาดคอนโดมิเนียมและที่อยู่อาศัยระดับกลาง-ล่างที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านกำลังซื้อและการแข่งขันที่รุนแรง
ในปี 2568 คาดการณ์ว่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะยังคงเน้นกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ การเปิดตัวโครงการใหม่จะยังคงเลือกทำเลศักยภาพสูงที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง หรือทำเลที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง การระบายสต็อกเก่าที่สร้างเสร็จแล้วจะเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท นอกจากนี้ การมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ หรือการร่วมทุน (Joint Venture) ทั้งกับบริษัทไทยและต่างชาติ จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เห็นได้ชัด เพื่อกระจายความเสี่ยง แบ่งปันความเชี่ยวชาญ และเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ๆ
กลยุทธ์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ: เกมของผู้ชนะในปี 2568
ในภาวะที่ตลาดไม่ง่าย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่นคือผู้ที่สามารถปรับตัวและสร้างสรรค์กลยุทธ์ใหม่ๆ ได้อย่างชาญฉลาด เราได้เห็นบทเรียนจากปีที่ผ่านมาว่าบริษัทที่ “ยืนหนึ่ง” ไม่ได้มีแค่รายได้สูงสุด แต่คือผู้ที่สามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน และบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การกระจายความเสี่ยงและสร้างพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง (Diversification for Resilience):
แสนสิริ (Sansiri): ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตอย่างโดดเด่น ด้วยกลยุทธ์การขยายพอร์ตโฟลิโอทั้งโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ไปจนถึงโครงการที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม เช่น โครงการที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง หรือโครงการที่เน้นดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่าง ในปี 2568 แสนสิริจะยังคงเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างลึกซึ้ง การขยายสู่ตลาดต่างประเทศและการหาพันธมิตรใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าจับตา
เอพี (ไทยแลนด์) (AP (Thailand)): ยังคงเป็นผู้นำด้านยอดขาย และแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวคนเมืองได้อย่างแม่นยำ ด้วยการออกแบบที่เน้นพื้นที่ใช้สอยและนวัตกรรมสมาร์ทโฮม ปี 2568 คาดว่าเอพีจะยังคงรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ พร้อมทั้งอาจมีการขยายสู่โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขายและการบริการมากขึ้น
เซ็นทรัลพัฒนา (Central Pattana – CPN): กลยุทธ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำศูนย์การค้า ทำให้ CPN มีฐานรายได้ที่มั่นคงและสามารถสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตได้อย่างครบวงจร การขยายสู่โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพสูงใกล้ศูนย์การค้าของตนเอง จะยังคงเป็นจุดแข็งที่ทำให้ CPN มีโอกาสเติบโตสูงในปี 2568 และเป็นผู้เล่นสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตในเมือง
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (Frasers Property Thailand): มีจุดแข็งในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้รับอานิสงส์จากอีคอมเมิร์ซและการปรับโครงสร้างซัพพลายเชนทั่วโลก ในปี 2568 เฟรเซอร์สจะยังคงเป็นผู้เล่นหลักในตลาดนี้ พร้อมกับขยายสู่โครงการที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมบางส่วน เพื่อสร้างความสมดุลในพอร์ตโฟลิโอ
การบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ (Cost Management & Efficiency):
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (Land & Houses): แม้รายได้จากการขายอาจลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ความสามารถในการรักษากำไรสุทธิในระดับสูง สะท้อนถึงกลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ยอดเยี่ยม รวมถึงการขายสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ (Recurring Income Assets) เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องและสร้างผลตอบแทนที่ดี ในปี 2568 แลนด์แอนด์เฮ้าส์จะยังคงเป็นตัวอย่างของการดำเนินธุรกิจที่เน้นความมั่นคงทางการเงินและผลกำไรที่ยั่งยืน
ศุภาลัย (Supalai): ยังคงเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์การพัฒนาโครงการที่หลากหลายและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและการส่งมอบโครงการที่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ศุภาลัยยังคงเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคไว้วางใจและเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี (Innovation & PropTech Integration):
ผู้พัฒนาหลายรายเริ่มนำเทคโนโลยี PropTech มาใช้ในการออกแบบ การก่อสร้าง การตลาด และการบริหารจัดการอาคารอย่างจริงจัง เช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การใช้ BIM (Building Information Modeling) ในการออกแบบและการบริหารงานก่อสร้าง หรือการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับลูกบ้าน การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและสร้างความแตกต่างให้กับโครงการ
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (Origin Property): เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่โดดเด่นในการปรับตัวและมองหาโอกาสใหม่ๆ ทั้งการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส การจับมือกับพันธมิตรจากต่างประเทศ และการขยายธุรกิจสู่กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ตลาด
การคำนึงถึงความยั่งยืน (ESG Integration):
ปี 2568 จะเป็นปีที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบยั่งยืน (Sustainable Real Estate) ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นมาตรฐานที่จำเป็น ผู้พัฒนาจะให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน การใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างพื้นที่สีเขียวในโครงการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสอดรับกับนโยบายของภาครัฐและนานาชาติ
เจาะลึกเซกเมนต์ที่น่าจับตาในปี 2568:
ที่อยู่อาศัยระดับบนและซูเปอร์ลักซ์ชัวรี (High-End & Super Luxury): ยังคงเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยกำลังซื้อที่ไม่มีข้อจำกัดมากนัก และความต้องการที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มและมีศักยภาพในการเป็นมรดก การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ทำเลที่โดดเด่น และบริการระดับพรีเมียม จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าเหล่านี้
บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในทำเลศักยภาพ (Detached Houses & Townhomes in Prime Locations): ความต้องการบ้านแนวราบยังคงมีสูง โดยเฉพาะในทำเลที่เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวก หรือใกล้กับศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ การออกแบบที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) และพื้นที่อเนกประสงค์ จะเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Property): คอนโดมิเนียมและโรงแรมขนาดเล็กในแหล่งท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว หรือในพื้นที่ EEC จะยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนจากค่าเช่า (Rental Yield) และการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ในระยะยาว
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม (Commercial & Industrial Real Estate):
ออฟฟิศ: การทำงานแบบไฮบริดยังคงส่งผลต่อตลาดออฟฟิศ แต่ความต้องการพื้นที่สำนักงานคุณภาพสูงที่เน้นความยืดหยุ่น สิ่งแวดล้อมที่ดี และเทคโนโลยีล้ำสมัย ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในใจกลางเมืองและย่านธุรกิจใหม่ๆ
รีเทล: ศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์จะยังคงปรับตัวและสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่หันไปซื้อของออนไลน์มากขึ้น
คลังสินค้าและโรงงาน: กลุ่มนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากกระแสอีคอมเมิร์ซและความต้องการพื้นที่โลจิสติกส์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ปี 2568: มองหาโอกาสในความท้าทาย
สำหรับนักลงทุน การเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำ การศึกษาแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างใกล้ชิด การพิจารณาทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และการเลือกผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประวัติผลงานดีเยี่ยมและกลยุทธ์ที่ชัดเจน จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์เชิงสุขภาพ (Wellness Real Estate) หรืออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
บทสรุปและคำเชิญชวน
ปี 2568 คือปีแห่งการปรับฐานและการเติบโตอย่างระมัดระวังในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ผู้ประกอบการที่พร้อมจะก้าวออกจากกรอบเดิมๆ นำนวัตกรรมมาปรับใช้ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง และบริหารจัดการธุรกิจด้วยความยั่งยืนเท่านั้น จึงจะสามารถยืนหยัดและคว้าชัยในสมรภูมิอันท้าทายนี้ได้ การเข้าใจถึงพลวัตของตลาด การถอดรหัสกลยุทธ์ของผู้เล่นชั้นนำ และการมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในแต่ละเซกเมนต์ จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องในวงการนี้
หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเพื่อวางแผนกลยุทธ์ให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2568 และในอนาคต อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเรา เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม เพื่อนำพาทุกการตัดสินใจของคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลงนี้
