น้ำใจคนไทย! เปิดรถให้ผู้ประสบภัยชาร์จแบตฟรี ช่วยให้ติดต่อโลกภายนอกได้หลังถูกตัดขาดหลายวัน

สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เริ่มคลี่คลายหลังระดับน้ำลดลง แต่บางพื้นที่ยังมีประชาชนติดค้างและไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ ขณะที่หลายหน่วยงานและประชาชนยังคงหลั่งไหลน้ำใจเข้าช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Newz Pattrawut ได้โพสต์ภาพรถยนต์ไฟฟ้าที่นำมาจอดริมถนน พร้อมเปิดให้ผู้ประสบภัยเข้ามาชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือได้ฟรี หลังหลายคนแบตโทรศัพท์หมด ทำให้ติดต่อญาติหรือติดตามข่าวสารไม่ได้หลายวัน

คุณนิว เจ้าของรถเปิดเผยกับทีมเพจโหนกระแสว่า ตนคิดได้ว่าเพื่อนที่ยังติดอยู่ในพื้นที่แล้วแบตโทรศัพท์หมด จะติดต่อใครก็ไม่ได้ จึงตัดสินใจขับรถมา แล้วจอดให้ผู้ประสบภัยมาชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้สามารถติดต่อญาติ ครอบครัว หรือรับรู้ข่าวสารได้บ้าง

อนาคตอสังหาริมทรัพย์ไทย 2568: ถอดรหัสโอกาสและความท้าทายในยุคแห่งการปรับเปลี่ยน

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมายาวนานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการพลิกผันของตลาดมาแล้วหลายครั้งหลายครา และปี 2568 นี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เมื่อภาคธุรกิจต้องเผชิญหน้ากับการหลอมรวมของปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค เทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนจากประสบการณ์อันท้าทายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจมองว่าตลาดยังคงอยู่ในภาวะเปราะบางจากแรงกดดันต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566-2567 แต่สำหรับผมแล้ว นี่คือช่วงเวลาแห่งการค้นพบกลยุทธ์ใหม่ๆ และการมองเห็น โอกาสลงทุนอสังหาฯ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความผันผวน การวิเคราะห์ตลาดอย่างลึกซึ้งในวันนี้จะเปิดเผยให้เห็นว่า ใครคือผู้ที่พร้อมจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำ และใครคือผู้ที่ต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ภูมิทัศน์เศรษฐกิจมหภาคและผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ 2568

ปี 2568 เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับสัญญาณการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจไทย ที่ค่อยเป็นค่อยไป โดยมีเครื่องยนต์หลักอย่างภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อน รวมถึงการลงทุนภาครัฐในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะช่วยสร้างงานและกระตุ้นการหมุนเวียนของเงินในระบบ อย่างไรก็ตาม เรายังต้องจับตาดูอัตราเงินเฟ้อที่แม้จะเริ่มชะลอตัวลง แต่ต้นทุนการดำเนินงานและวัสดุก่อสร้างก็ยังคงเป็นปัจจัยท้าทายสำคัญสำหรับ นักพัฒนาอสังหาฯ

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดที่อยู่อาศัยคือ อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มเรียลดีมานด์ลดลงอย่างต่อเนื่อง การกู้ซื้อบ้านกลายเป็นภาระที่หนักอึ้งขึ้นสำหรับครัวเรือนที่มี หนี้ครัวเรือน สูงอยู่แล้ว นี่คือโจทย์ใหญ่ที่นักพัฒนาและสถาบันการเงินต้องหาทางออกร่วมกัน เช่น การนำเสนอแพ็กเกจสินเชื่อที่ยืดหยุ่นมากขึ้น หรือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กำลังซื้อที่จำกัด

ขณะเดียวกัน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและ มาตรการภาครัฐ ที่ออกมาเป็นระยะ อาจช่วยประคับประคองตลาดได้ในบางส่วน แต่การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโดยรวมและการแก้ไขปัญหากำลังซื้ออย่างเป็นรูปธรรม การพึ่งพิงตลาดต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน อสังหาริมทรัพย์หรู และคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมในทำเลทอง การวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียดจะช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมที่ซับซ้อนนี้ได้ดียิ่งขึ้น

เจาะลึกตลาดที่อยู่อาศัย: บ้านและคอนโดมิเนียม

ในรอบปี 2568 นี้ ตลาดบ้านและคอนโด ยังคงแสดงให้เห็นถึงการแบ่งขั้วอย่างชัดเจน อุปทานที่เคยล้นตลาดในบางทำเลช่วงปี 2566-2567 เริ่มปรับสมดุลบ้างจากการที่ผู้ประกอบการระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น แต่ความท้าทายหลักยังคงอยู่ที่ “ความต้องการซื้อที่แท้จริง” (Real Demand) และ “กำลังซื้อ”

ตลาดบ้านแนวราบ:
บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมยังคงเป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้อที่มองหาพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางขึ้นหลังจากการทำงานแบบ Hybrid Work กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ทำเลที่ได้รับความนิยมคือพื้นที่ขยายตัวรอบเมืองที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ผู้ซื้อไม่ได้มองหาแค่ “บ้าน” แต่กำลังมองหา “คุณภาพชีวิต” ที่ดีขึ้น เน้นฟังก์ชันที่ตอบรับการใช้ชีวิตหลากหลายรูปแบบ ทั้งพื้นที่ทำงาน (Home Office), พื้นที่พักผ่อน, และพื้นที่สีเขียว การออกแบบที่คำนึงถึง ความยั่งยืนอสังหาฯ อาทิ การประหยัดพลังงาน การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และระบบสมาร์ทโฮม ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ

ตลาดคอนโดมิเนียม:
คอนโดมิเนียมในเมืองยังคงเป็นที่ต้องการในกลุ่มผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางและไลฟ์สไตล์แบบ Urban Living โดยเฉพาะโครงการที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า และโครงการ Mixed-use ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อย่างไรก็ตาม คอนโดมิเนียมระดับกลางถึงล่างยังคงเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงและสต็อกคงค้างบางส่วน การระบายสต็อกเหล่านี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด ในขณะที่ อสังหาริมทรัพย์หรู ยังคงเติบโตได้ดีจากกลุ่มกำลังซื้อสูงทั้งในและต่างประเทศ ผู้พัฒนาหลายรายจึงหันไปโฟกัสตลาด Niche นี้มากขึ้น โดยนำเสนอความพรีเมียม ทั้งด้านการออกแบบ บริการ และเทคโนโลยี การเข้ามาของ นักลงทุนต่างชาติ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในตลาดนี้

ที่ดินและราคา: การเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่ง

ราคาที่ดิน ในปี 2568 ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของโครงการใหม่ๆ ที่ดินในทำเลทองใจกลางเมืองและตามแนวรถไฟฟ้ายังคงมีราคาสูงอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้การพัฒนาโครงการใหม่ๆ มีความท้าทายสูงขึ้น ผู้ประกอบการจึงหันไปให้ความสนใจที่ดินในพื้นที่รอบนอกเมืองที่มีศักยภาพการเติบโต หรือที่ดินที่มีขนาดเล็กลงแต่สามารถพัฒนาเป็นโครงการ Niche Market ที่มีมูลค่าเพิ่มได้ ที่ดินเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยเฉพาะการพัฒนา คลังสินค้า อัจฉริยะและโรงงานสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve Industries) ซึ่งสะท้อนการปรับตัวของเศรษฐกิจไทยสู่ยุคดิจิทัลและนวัตกรรม

การพลิกโฉมตลาดเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม

นอกเหนือจากที่อยู่อาศัย ภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมก็กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

ตลาดอาคารสำนักงาน:
แนวโน้มการทำงานแบบ Hybrid Work ที่แข็งแกร่งขึ้นในช่วงปี 2566-2567 ยังคงส่งผลต่อ ตลาดออฟฟิศให้เช่า ในปี 2568 ผู้เช่าต้องการพื้นที่ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น มีเทคโนโลยีรองรับการทำงานร่วมกัน และเน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน อาคารสำนักงานรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์เหล่านี้จะยังคงได้รับความนิยม ในขณะที่อาคารเก่าที่ไม่ปรับตัวอาจต้องเผชิญกับอัตราการเช่าที่ลดลง หรือต้องพิจารณาการปรับปรุงและเปลี่ยนประเภทการใช้งาน (Repurposing) เพื่อเพิ่มมูลค่า

ตลาดพื้นที่ค้าปลีก:
พื้นที่ค้าปลีก กำลังถูกปฏิวัติโดย E-commerce ผู้บริโภคไม่ได้มาศูนย์การค้าเพื่อซื้อของเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการประสบการณ์ (Experiential Retail) ที่หลากหลาย ทั้งร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง หรือ Co-working Space ศูนย์การค้าที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่สามารถผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว (Omni-channel) และกลายเป็น “Third Place” ที่ผู้คนต้องการมาใช้เวลา

ตลาดคลังสินค้าและโลจิสติกส์:
เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งพุ่งแรงที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากกระแส E-commerce และการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Resilience) ผู้ประกอบการมองหา คลังสินค้า ที่ทันสมัย มีระบบอัตโนมัติ และตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับการขนส่งหลายรูปแบบ การลงทุนใน PropTech เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่และโลจิสติกส์จึงเป็นสิ่งจำเป็น

กลยุทธ์ของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในยุค 2568

จากประสบการณ์กว่าทศวรรษ ผมเห็นว่า กลยุทธ์อสังหาฯ ที่สำคัญสำหรับปี 2568 คือการปรับตัวและสร้างความแตกต่าง ผู้ประกอบการชั้นนำหลายรายที่ผ่านความท้าทายในปี 2566-2567 มาได้ ล้วนมีจุดร่วมคือความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วและการมองการณ์ไกล

การกระจายความเสี่ยง (Diversification): ผู้ประกอบการไม่ควรยึดติดกับธุรกิจหลักเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เช่น โรงแรม ศูนย์การค้า คลังสินค้า หรือแม้แต่ Data Center นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการแบบ Mixed-use ก็เป็นอีกแนวทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

มุ่งเน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market): การแข่งขันในตลาด Mass สูงมาก ผู้พัฒนาควรศึกษาความต้องการของตลาดให้ลึกซึ้ง และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม เช่น อสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงอายุ (Senior Living), ที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติ (Expat Housing), หรือโครงการที่เน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness Residence)

การนำเทคโนโลยีมาใช้ (PropTech and Digital Transformation): ดิจิทัลอสังหาฯ ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็น ตั้งแต่การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด, VR/AR ในการนำเสนอโครงการ, ระบบ Smart Home ในการควบคุมบ้าน, ไปจนถึงการบริหารจัดการอาคารและลูกค้าสัมพันธ์ด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมหาศาล

การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (ESG Integration): ผู้บริโภคและนักลงทุนยุคใหม่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มากขึ้น การพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานทางเลือก การออกแบบที่เน้นสุขภาพของผู้ใช้งาน และการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการในระยะยาว

การบริหารจัดการต้นทุนและสภาพคล่อง: ในภาวะที่ตลาดผันผวน การบริหารจัดการต้นทุนอย่างรัดกุม การควบคุมค่าใช้จ่าย และการรักษาสภาพคล่องทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ผู้ประกอบการควรมีแผนสำรองและประเมินความเสี่ยงอยู่เสมอ

บทเรียนจากผู้เล่นหลักและการปรับตัวสำหรับปี 2568

หากมองย้อนไปที่ ผลประกอบการอสังหาฯ ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทหลายแห่งต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นรายได้รวมหรือรายได้จากการขายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้แต่ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หรือ เอพี (ไทยแลนด์) ก็ยังต้องปรับกลยุทธ์อย่างหนักเพื่อประคับประคองสถานการณ์ มีเพียงบางราย เช่น แสนสิริ หรือ เอสซี แอสเสท ที่ยังสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับตัวที่รวดเร็วและการเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง

สำหรับปี 2568 นี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำยังคงเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น การเน้นย้ำโครงการระดับบน, การเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ, และการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ อย่างการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม หรือการลงทุนในเทคโนโลยี การแข่งขันจะไม่ใช่แค่การสร้างยอดขาย แต่เป็นการสร้าง “มูลค่า” และ “ความยั่งยืน” ให้กับธุรกิจ

ภาพรวมและคำแนะนำสำหรับอนาคต

ภาคอสังหาริมทรัพย์ ไทยในปี 2568 นี้ ยังคงเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยพลวัตและความท้าทาย แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ผมเชื่อว่าผู้ประกอบการที่เข้าใจและปรับตัวได้ก่อน จะเป็นผู้ที่สามารถคว้าชัยชนะในเกมนี้ได้ การลงทุนในข้อมูลและเทคโนโลยี การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค และการให้ความสำคัญกับ ESG จะเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ

สำหรับนักลงทุน การพิจารณา การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2568 ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งศักยภาพของทำเล แนวโน้มประชากร แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และแน่นอน ผลประกอบการและกลยุทธ์ของผู้พัฒนา การลงทุนใน REITs (Real Estate Investment Trusts) ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำ

จากประสบการณ์ 10 ปีในวงการนี้ ผมขอยืนยันว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่เคยหยุดนิ่ง การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งถาวร และผู้ที่สามารถเรียนรู้ ปรับตัว และมองเห็นโอกาสภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย จะเป็นผู้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตัวจริงใน อสังหาริมทรัพย์ 2568

อย่ารอช้า! หากคุณต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 หรือกำลังมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์เทรนด์อนาคต ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมที่จะให้คำแนะนำและร่วมวางกลยุทธ์ เพื่อนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จในตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพแห่งนี้ ติดต่อเราวันนี้เพื่อยกระดับความเข้าใจและการลงทุนของคุณให้เหนือกว่าใคร!