พลตำรวจตรี ทัศน์ภูมิ จารุปรัชน์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเศรษฐกิจ แถลงข่าวหลังสอบปากคำ นานา ไรบีนา ว่า เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา กลุ่มเพื่อนสนิทของนานา ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีฐานฉ้อโกง และพ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน อันเป็นฉ้อโกงประชาชน หลังจากเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐาน สอบเส้นทางการเงิน และสอบสวนผู้เสียหายรวม 17 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 195 ล้านบาท จากนั้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ เจ้าหน้าที่จึงไปขอศาลอนุมัติหมายจับ และยึดทรัพย์ 10 ล้านบาท ส่วน เวย์ ไทเทเนียม สามีนานา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
.
โดยพฤติการณ์ของนานา พบว่ามีการชักชวนลงทุนใน 4 กิจกรรม คืออ้างว่ามีการปล่อยกู้สินเชื่อโดยให้ค่าตอบแทนต่อเดือน 4-7% , ,มีการอุปโลกน์คนขึ้นมาเทรดหุ้น , อ้างทำธุรกิจสนามบาส และเปิดร้านอาหารในสหรัฐฯ โดยกรณี เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ถูกชักชวนลงทุนทำร้านอาหารในสหรัฐฯ เป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท แต่เมื่อเป็นข่าว เจนี่ ได้ตรวจสอบพบว่าไม่มีการลงทุนจริง
.
ส่วนกรณีทนายสายหยุด บอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ควบคุมตัวนานา หลังพาไปมอบตัวนั้น พลตำรวจตรี ทัศน์ภูมิ กล่าวว่า ทนายสายหยุด พานานา มาพบในวันจันทร์ เวลา 17.00 น. ซึ่งเป็นเวลานอกราชการ และเจ้าพนักงานยังไม่มีหมายจับ เพราะออกหมายจับเมื่อวานนี้ช่วงบ่าย
.
เบื้องต้นจากการสอบปากคำ นานา ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างไม่รู้ นึกว่าเป็นการกู้ยืมตามปกติ และยังหวังว่าจะนำเงินมาชดใช้ผู้เสียหายได้
เปิดโผ 6 ซูเปอร์คาร์สุดยอดแห่งปี 2025: ประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับที่นักสะสมไม่ควรมองข้าม
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของตลาดซูเปอร์คาร์มาโดยตลอด และเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2025 โลกแห่งยนตรกรรมเหนือระดับนี้ยังคงร้อนแรงและเต็มไปด้วยนวัตกรรมที่ท้าทายขีดจำกัดเดิมๆ ซูเปอร์คาร์ในยุคปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะที่เร็วและแรงเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานศิลปะทางวิศวกรรมที่หลอมรวมเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่ไร้กาลเวลา และประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว การเลือกรถซูเปอร์คาร์ที่ดีที่สุดประจำปีนี้จึงไม่ใช่แค่การดูตัวเลขแรงม้าหรืออัตราเร่ง แต่ยังต้องพิจารณาถึงปรัชญาการสร้าง สภาพตลาด พลังงานขับเคลื่อนแห่งอนาคต และคุณค่าในฐานะสินทรัพย์ที่น่าลงทุน วันนี้ผมจะพาทุกท่านดำดิ่งสู่โลกของ 6 ซูเปอร์คาร์ที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 ซึ่งแต่ละคันล้วนเป็นตัวแทนของความสมบูรณ์แบบในแบบฉบับของตัวเอง พร้อมแล้วหรือยังที่จะสัมผัสหัวใจของยานยนต์แห่งความฝันเหล่านี้?
Ferrari 296 GTB: บทสรุปของขุมพลังไฮบริด V6 แห่งอนาคต
Ferrari 296 GTB ไม่ใช่แค่ซูเปอร์คาร์อีกคัน แต่เป็นการประกาศจุดยืนครั้งสำคัญของ Ferrari ในโลกของยานยนต์สมรรถนะสูงแบบไฮบริด นี่คือการตีความใหม่ของซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์วางกลางขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ผสานรวมเทคโนโลยีล้ำยุคเข้ากับจิตวิญญาณแห่งการแข่งรถได้อย่างไร้ที่ติ ในปี 2025 นี้ 296 GTB ยังคงยืนหนึ่งในฐานะสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ที่ผสมผสานความเร้าใจแบบดั้งเดิมเข้ากับประสิทธิภาพเชิงพลังงานอย่างชาญฉลาด หัวใจหลักคือเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จขนาด 2.9 ลิตรที่เรียกว่า “Piccolo V12” อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งให้กำลังมหาศาลถึง 653 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 167 แรงม้า กำลังรวมสูงสุดของระบบไฮบริดปลั๊กอิน (PHEV) นี้พุ่งทะลุไปถึง 830 แรงม้า พร้อมแรงบิด 740 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับเครื่องยนต์ V6 ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้เพียง 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุดกว่า 330 กม./ชม.
สิ่งที่ทำให้ 296 GTB โดดเด่นกว่ารถรุ่นอื่นในตลาด คือความสามารถในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 25 กิโลเมตร ทำให้เป็นซูเปอร์คาร์ที่สามารถใช้งานในเมืองได้อย่างเงียบเชียบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก่อนจะปลดปล่อยพลังเสียงคำรามของ V6 เมื่อคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ดุดันบนเส้นทางคดเคี้ยว ระบบส่งกำลัง 8 สปีดแบบ Dual-Clutch ทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ส่งผ่านพลังงานสู่ล้อหลังได้อย่างหมดจด ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบไฮบริดโดยเฉพาะ ทำให้การกระจายน้ำหนักเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ การออกแบบภายนอกแม้จะยังคงกลิ่นอายของ Ferrari ยุคใหม่ แต่ก็ถูกปรับปรุงให้ดูล้ำสมัยและดุดันยิ่งขึ้น ด้วยไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่ รวมถึงช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ ห้องโดยสารภายในเรียบง่ายแต่หรูหราด้วยจอแสดงผลดิจิทัลขนาดใหญ่ และเบาะนั่งสปอร์ตที่โอบกระชับเรือนร่างได้อย่างลงตัว สำหรับนักลงทุนและผู้ที่มองหา ซูเปอร์คาร์ที่มีเทคโนโลยีไฮบริดล้ำหน้า พร้อมศักยภาพในการเป็นคลาสสิกในอนาคต Ferrari 296 GTB คือการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอนในปี 2025
Porsche 911 GT3 RS: อสูรกายสนามแข่งที่ถูกกฎหมายบนท้องถนน
ในโลกที่ซูเปอร์คาร์นับวันยิ่งซับซ้อนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีไฮบริด Porsche 911 GT3 RS ยังคงยืนหยัดเป็นเสาหลักแห่งความบริสุทธิ์ของการขับขี่ นี่คือ รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่ได้รับการพัฒนามาจากสนามแข่งโดยตรง และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เชื่อมโยงกับผู้ขับมากที่สุด เมื่อพูดถึง 911 GT3 RS ในปี 2025 เรากำลังพูดถึงวิศวกรรมยานยนต์ที่เข้าถึงแก่นแท้ของความเร็วและไดนามิกส์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Boxer 6 สูบนอน หายใจเอง (naturally aspirated) ขนาด 4.0 ลิตร ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างพิถีพิถัน เพื่อรีดเค้นกำลังสูงสุด 525 แรงม้า และแรงบิด 470 นิวตันเมตร แม้ตัวเลขแรงม้าอาจไม่สูงเท่าคู่แข่งบางรุ่น แต่การส่งกำลังที่ราบรื่นและตอบสนองฉับไวของเครื่องยนต์ NA คือสิ่งที่นักขับตัวจริงแสวงหา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 296 กม./ชม.
สิ่งที่ทำให้ 911 GT3 RS แตกต่างอย่างสิ้นเชิงคือแนวคิดการออกแบบที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุดบนสนามแข่ง โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา ผนวกกับระบบแอโรไดนามิกส์ที่ซับซ้อน รวมถึงปีกหลังขนาดมหึมาที่สร้างแรงกดมหาศาล (downforce) ช่วยให้รถยึดเกาะถนนในความเร็วสูงได้อย่างมั่นคง ระบบกันสะเทือนแบบปรับได้เต็มรูปแบบ (adjustable suspension) เบรกคาร์บอนเซรามิก และยางสมรรถนะสูง คืออุปกรณ์มาตรฐานที่ทำให้ GT3 RS พร้อมสำหรับการลงสนามแข่งได้ทันที ห้องโดยสารถูกลดทอนความหรูหราที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มความรู้สึกแบบรถแข่ง เบาะนั่งแบบ Bucket Seat ที่โอบกระชับ และพวงมาลัย Alcantara คือสิ่งที่ตอกย้ำความเป็น รถแข่งบนถนน หากคุณเป็นนักขับที่หลงใหลในความบริสุทธิ์ของการควบคุม ความแม่นยำ และเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่ไม่มีเทอร์โบมาขัดจังหวะ Porsche 911 GT3 RS คือตัวเลือกที่ไร้เทียมทาน และเป็นหนึ่งใน รถยนต์ซูเปอร์คาร์ ที่ให้คุณค่าในระยะยาวสำหรับนักสะสมอย่างแท้จริง
Lamborghini Huracan Tecnica: สะพานเชื่อมแห่งตำนาน V10
Lamborghini Huracan Tecnica คือจุดสูงสุดของวิวัฒนาการในตระกูล Huracan ก่อนที่ค่ายกระทิงดุจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว มันถูกวางตำแหน่งให้เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง Huracan EVO ที่เน้นความหรูหรากับการใช้งานบนท้องถนน และ Huracan STO ที่เป็นอสูรกายแห่งสนามแข่งโดยเฉพาะ สำหรับปี 2025 Tecnica ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ เครื่องยนต์ V10 ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lamborghini พร้อมสมดุลที่ยอดเยี่ยมระหว่างความสามารถบนสนามแข่งกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หัวใจหลักคือเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร หายใจเอง ให้พละกำลังสูงสุด 640 แรงม้า และแรงบิด 565 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกันกับรุ่น STO ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบ Dual-Clutch ไปยังล้อหลัง ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้เพียง 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 325 กม./ชม.
การออกแบบภายนอกของ Tecnica นั้นดุดันและสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ช่องดักอากาศที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และกันชนหน้า/หลังดีไซน์เฉพาะตัว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์และแรงกด (downforce) ได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน การลดน้ำหนักตัวถังลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่น EVO ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายเฉพาะตัวเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารยังคงความหรูหราตามสไตล์ Lamborghini ด้วยวัสดุคุณภาพสูง เช่น คาร์บอนไฟเบอร์และ Alcantara พร้อมเบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับการขับขี่แบบดุดัน หน้าจอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้วสำหรับมาตรวัดความเร็ว และหน้าจอ Infotainment ขนาด 8.4 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ Tecnica เป็น ซูเปอร์คาร์ที่ผสมผสานความเร้าใจเข้ากับความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว หากคุณกำลังมองหา รถสปอร์ตหรู ที่เป็นบทสรุปของตำนาน V10 และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีวันลืม Lamborghini Huracan Tecnica คือคำตอบที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง พร้อมทั้งเป็นสุดยอดการลงทุนในตลาด รถยนต์สมรรถนะสูง แห่งปี 2025
McLaren Artura: นิยามใหม่ของซูเปอร์คาร์ไฮบริดน้ำหนักเบา
McLaren Artura คือก้าวที่สำคัญของค่าย McLaren สู่ยุคสมัยใหม่ของซูเปอร์คาร์ นั่นคือ รถสปอร์ตไฮบริด ที่ไม่ได้เป็นเพียงการนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาเสริม แต่เป็นการออกแบบรถทั้งคันให้รองรับเทคโนโลยีนี้ตั้งแต่ต้น ในปี 2025 Artura ยังคงเป็นตัวแทนของวิสัยทัศน์ที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดผ่านโครงสร้างน้ำหนักเบาและระบบส่งกำลังที่ซับซ้อน มันถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมดที่เรียกว่า MCLA (McLaren Carbon Lightweight Architecture) ซึ่งเป็นโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาพิเศษ ทำให้ Artura มีน้ำหนักเพียง 1,498 กิโลกรัม แม้จะเป็นระบบไฮบริดก็ตาม หัวใจหลักคือเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ขนาด 3.0 ลิตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 680 แรงม้า และแรงบิด 720 นิวตันเมตร ส่งผลให้ Artura สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 330 กม./ชม.
สิ่งที่น่าสนใจคือ Artura เป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดคันแรกของ McLaren ที่มาพร้อมกับระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) และระบบเบรกแบบ Regenerative ซึ่งช่วยดึงพลังงานกลับคืนมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร ทำให้เป็น รถยนต์สมรรถนะสูง ที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น การออกแบบภายนอกยังคงเอกลักษณ์ของ McLaren ด้วยเส้นสายที่ลื่นไหล เน้นประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ และมีช่องดักอากาศที่ชาญฉลาด ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่ทันสมัย พร้อมระบบ Infotainment ใหม่ล่าสุด และเบาะนั่งที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการขับขี่ทางไกลและการขับขี่ในสนาม Artura คือซูเปอร์คาร์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ประหยัดเชื้อเพลิง และเต็มไปด้วย เทคโนโลยีไฮบริด ที่ล้ำสมัย หากคุณกำลังมองหา รถยนต์ซูเปอร์คาร์ ที่ไม่เพียงแค่เร็วและแรง แต่ยังฉลาดล้ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม McLaren Artura คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่นำเสนอ นวัตกรรมยานยนต์ แห่งอนาคตในปี 2025
Maserati MC20: การกลับมาอย่างสง่างามของม้าสามง่าม
Maserati MC20 คือการประกาศการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Maserati ในตลาดซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์วางกลาง หลังจากห่างหายไปนาน มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งการฟื้นฟูจิตวิญญาณแห่งการแข่งรถและความหรูหราแบบอิตาเลียนที่แท้จริง สำหรับปี 2025 MC20 ยังคงเป็นหนึ่งในซูเปอร์คาร์ที่น่าจับตามองมากที่สุด ด้วยการผสมผสานการออกแบบที่งดงามเข้ากับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม หัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ “Nettuno” ขนาด 3.0 ลิตร ที่พัฒนาโดย Maserati เอง เครื่องยนต์นี้เป็นผลงานชิ้นเอกทางวิศวกรรมที่ใช้เทคโนโลยี Twin-Spark System และ Twin-Injection System ทำให้สามารถรีดพละกำลังได้สูงสุดถึง 630 แรงม้า และแรงบิด 730 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Dual-Clutch ไปยังล้อหลัง ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้เพียง 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 325 กม./ชม.
โครงสร้างของ MC20 สร้างขึ้นจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 1,500 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถมีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมและมีไดนามิกส์การขับขี่ที่เหนือชั้น ระบบกันสะเทือนแบบอิสระทั้งสี่ล้อและเบรกคาร์บอนเซรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและมั่นใจ การออกแบบภายนอกของ MC20 นั้นสะอาดตา สง่างาม และไร้กาลเวลา ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ประตูแบบ Butterfly Doors เพิ่มความหรูหราและโดดเด่น ห้องโดยสารภายในเน้นความเรียบง่ายแต่หรูหรา ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีที่จำเป็นครบครัน มีให้เลือกทั้งรุ่น Coupe หลังคาแข็ง และรุ่น Spider เปิดประทุน รวมถึงรุ่น Trofeo ที่เน้นสมรรถนะสูงยิ่งขึ้น Maserati MC20 คือ รถซูเปอร์คาร์ ที่มอบทั้งความเร้าใจในสมรรถนะ ความหรูหราแบบอิตาเลียน และความพิเศษในการเป็นเจ้าของ และเป็นหนึ่งใน รถยนต์สมรรถนะสูง ที่มีอนาคตสดใสในปี 2025
Chevrolet Corvette C8: ซูเปอร์คาร์สัญชาติอเมริกันที่เข้าถึงได้
Chevrolet Corvette C8 คือการปฏิวัติครั้งสำคัญของตำนานสปอร์ตคาร์อเมริกัน ด้วยการย้ายเครื่องยนต์มาไว้ตรงกลางตัวรถเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทำให้ Corvette ก้าวเข้าสู่ทำเนียบซูเปอร์คาร์อย่างเต็มตัว ในปี 2025 C8 ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในฐานะ รถยนต์สมรรถนะสูง ที่มอบความตื่นเต้นในระดับซูเปอร์คาร์ แต่มาพร้อมกับราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าคู่แข่งยุโรปหลายราย หัวใจหลักคือเครื่องยนต์ LT2 V8 ขนาด 6.2 ลิตร (Small Block V8) ที่หายใจเอง ให้กำลังสูงสุด 495 แรงม้า (ในรุ่น Performance Exhaust) และแรงบิด 637 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Dual-Clutch ไปยังล้อหลัง ทำให้อัตราเร่ง 0-96.5 กม./ชม. (0-60 ไมล์/ชม.) ทำได้ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 312 กม./ชม.
การออกแบบภายนอกของ C8 นั้นโฉบเฉี่ยวและดุดัน ด้วยเส้นสายที่คมชัด ไฟหน้า LED ดีไซน์เรียบหรู และช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงสมรรถนะที่ซ่อนอยู่ กระจกหลังขนาดใหญ่เปิดให้เห็นความงามของเครื่องยนต์ V8 ที่วางอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แฟนๆ ชื่นชอบ นอกจากนี้ยังมีท่อไอเสียแบบ Quad-Tip และไฟท้าย LED คู่ที่ดูทันสมัย ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เน้นความสะดวกสบายและเทคโนโลยี ด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่เอียงเข้าหาผู้ขับ เบาะนั่งสปอร์ตที่โอบกระชับ และวัสดุคุณภาพสูงที่ยกระดับความรู้สึกหรูหราขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากรุ่นพื้นฐานแล้ว ในปี 2025 ยังมีรุ่นย่อยที่น่าสนใจอย่าง Z06 ที่เน้นสมรรถนะสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ Flat-Plane Crank V8 และรุ่น E-Ray ที่เป็นไฮบริดขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและวิสัยทัศน์ของ Corvette สำหรับอนาคต Chevrolet Corvette C8 จึงเป็น รถยนต์ซูเปอร์คาร์ ที่มอบความคุ้มค่าด้านประสิทธิภาพและประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เป็นรองใคร และเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสโลกของ รถยนต์สมรรถนะสูง แบบอเมริกันในปี 2025
ก้าวสู่โลกแห่งซูเปอร์คาร์ที่เหนือกว่า
ในปี 2025 นี้ ตลาดซูเปอร์คาร์ยังคงนำเสนอความตื่นเต้นและนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นพลังขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่ฉลาดล้ำ ประสิทธิภาพอันบริสุทธิ์ของเครื่องยนต์หายใจเอง หรือการกลับมาของตำนานที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ แต่ละคันที่เราได้สำรวจมาล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และเทคโนโลยีแห่งยุคสมัย หากคุณคือผู้ที่หลงใหลในความเร็ว ความหรูหรา และนวัตกรรมยานยนต์เหนือระดับ นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการค้นหา รถในฝันของคุณ การเป็นเจ้าของ รถยนต์ซูเปอร์คาร์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การครอบครองพาหนะที่ทรงพลัง แต่เป็นการลงทุนในความหลงใหล ประสบการณ์ที่ไม่มีใครเหมือน และผลงานศิลปะทางวิศวกรรมที่จะคงอยู่เหนือกาลเวลา
อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์สุดยอดเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง! หากคุณพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกของสุดยอดซูเปอร์คาร์แห่งปี 2025 หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือก รถสปอร์ตหรู ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณ โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราวันนี้ เราพร้อมที่จะช่วยให้ความฝันของคุณเป็นจริง
