• Privacy Policy
  • Sample Page
News
No Result
View All Result
No Result
View All Result
News
No Result
View All Result

ศูนย์อพยพ ม.สงขลานครินทร์แน่นประชาชนหลั่งไหลเข้าพัก ด้านกรมสุขภาพจิตเร่งดูแลภาวะเครียดหลังน้ำท่วม

admin79 by admin79
November 30, 2025
in Uncategorized
0
ศูนย์อพยพ ม.สงขลานครินทร์แน่นประชาชนหลั่งไหลเข้าพัก ด้านกรมสุขภาพจิตเร่งดูแลภาวะเครียดหลังน้ำท่วม

ศูนย์อพยพ ม.สงขลาฯ ยังมีผู้ประสบภัยเข้าพักต่อเนื่อง ทั้งอาหาร–ยารักษาโรคมีเพียงพอ ขณะที่กรมสุขภาพจิตระดมทีม MCATT 35 ทีม ดูแลกลุ่มเสี่ยงภาวะเครียดรุนแรง พร้อมเปิดบริการออนไลน์และสายด่วนให้ปรึกษา ด้านศูนย์พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลยังคงตรวจสอบผู้สูญหายต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศล่าสุดที่ศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งมีประชาชนจากหลายพื้นที่ทยอยเข้ามาพักอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานร่วมดูแลด้านอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค รวมถึงการรักษาความปลอดภัย เพื่อรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สร้างผลกระทบรุนแรง ทั้งการสูญเสียที่อยู่อาศัย การพลัดพรากจากครอบครัว รวมถึงการขาดทรัพยากรพื้นฐาน ทำให้ประชาชนจำนวนมากเสี่ยงต่อการเกิดโรคเครียดเฉียบพลัน (Acute Stress Disorder) และโรคเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง (PTSD) ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง

กรมสุขภาพจิตจึงได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนในพื้นที่ โดย เปิดคลินิกสุขภาพใจ “เรื่องใจ ให้เราดูแล” ที่เทศบาลนครหาดใหญ่ พร้อมให้บริการโดยจิตแพทย์และทีมสหวิชาชีพจัดรถ “เพื่อนใจ” สุขภาพใจเคลื่อนที่ ให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป เพิ่มทีม MCATT เป็น 35 ทีม รวม 140 คน จากหลายสถาบันจิตเวช ลงพื้นที่ศูนย์อพยพ โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และศูนย์พักพิงต่าง ๆ เพื่อดูแลภาวะจิตใจประชาชนและบุคลากร

ด้านบริการออนไลน์ นอกจากสายด่วนเฉพาะกิจ 1667 ประสานงานด้านการแพทย์แล้ว ยังเปิดให้ประชาชนรับคำปรึกษาผ่าน สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึง Line OA 1323 (น้ำท่วมภาคใต้) ให้ลงทะเบียนเพื่อรับการติดต่อกลับจากนักจิตวิทยาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นายแพทย์จุมกฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เสริมว่า ช่วงที่ประชาชนอยู่ในภาวะวิกฤต ย่อมเกิดความเศร้า ความเครียด และความหวาดกลัว จึงขอให้ทุกครอบครัวช่วยดูแลกันตาม “หลัก 3ส สุขภาพจิต” ได้แก่

สอดส่อง ผู้ที่มีอาการเครียดหรือซึมเศร้า ใส่ใจ รับฟังและให้พื้นที่ระบายความรู้สึก ส่งต่อ หากพบสัญญาณรุนแรง เช่น นอนไม่หลับต่อเนื่อง มีความคิดทำร้ายตนเอง ให้ติดต่อสายด่วน 1323 ทันที

ขณะเดียวกัน ศูนย์พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ม.อ. ซึ่งใช้เป็นสถานที่รวมร่างผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย มีการระดมพนักงานสอบสวนกว่า 40 นาย เข้ารับแจ้งบุคคลสูญหายและประสานญาติที่คาดว่ามีผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้จัดตู้คอนเทนเนอร์ 6 ตู้ และโดมสำหรับตรวจสอบอัตลักษณ์ด้วย DNA โดยมีหลายหน่วยงานร่วมทำงานภายในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนยอดผู้เสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ

เจาะลึกตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: ถอดบทเรียนจากอดีต สู่กลยุทธ์พิชิตความท้าทายในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวัฏจักรของตลาดที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์และการเผชิญหน้ากับมรสุมเศรษฐกิจ ปี 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่หล่อหลอมให้เรามองเห็นภาพของตลาดในปี 2568 ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ปีที่ผ่านมาซึ่งคาดหวังว่าจะต่อยอดโมเมนตัมที่ดีจากปี 2565 กลับกลายเป็นปีที่ตลาดต้องเผชิญภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ลากยาวมาจนถึงปลายปี และต่อเนื่องมาถึงปี 2567 ที่สถานการณ์ยังไม่สู้ดีนัก แม้กระทั่งในไตรมาสที่ 4 ซึ่งมักจะเป็นช่วงไฮซีซั่นก็ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน

วันนี้เราจะมาถอดรหัสผลประกอบการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์รวม 41 แห่ง เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกว่าใครคือผู้ที่สามารถปรับตัวและยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย และอะไรคือกลยุทธ์สำคัญที่จะนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จใน “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568” ที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย: บทเรียนจากอดีตสู่แนวโน้มปี 2568

ปี 2566 เป็นปีที่ตอกย้ำถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจมหภาคที่มีผลกระทบโดยตรงต่อ “อสังหาริมทรัพย์ไทย” โดยรวม 41 บริษัทมียอดรายได้รวมกว่า 371,560 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยประมาณ -1.2% จากปี 2565 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในรายบริษัทจะพบว่ามีถึง 25 จาก 41 บริษัทที่เผชิญกับภาวะรายได้รวมลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการกระจายตัวของผลกระทบที่ไม่เท่าเทียมกัน

บริษัทที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักและมีรายได้รวมติดลบในระดับ 20% ขึ้นไป อาทิ แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์, อีสเทิร์น สตาร์ เรียล เอสเตท และ คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ ที่ติดลบราว -28% นอกจากนี้ยังมี ไรมอน แลนด์ (-26%), ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (-23%), เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (-22%) และไซมิส แอสเสท (-21%) บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่มักพึ่งพารายได้จากการขายโครงการใหม่เป็นหลัก และตลาดที่ชะลอตัวย่อมส่งผลกระทบโดยตรง

แม้แต่ยักษ์ใหญ่ในวงการอย่าง แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ก็ยังประสบภาวะรายได้รวมติดลบถึง -18% ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เมื่อเจาะลึกลงไปในกลุ่ม Top 10 บริษัทที่มีรายได้รวมสูงสุดในปี 2566 พบว่ามีถึง 5 บริษัทที่รายได้รวมลดลงจากปี 2565 ซึ่งรวมถึง เอพี (ไทยแลนด์) ที่ติดลบไม่ถึง -1% แต่ก็ยังเป็นสัญญาณเตือนว่า แม้แต่ผู้นำตลาดก็ยังต้องเผชิญแรงกดดัน นอกจากนี้ ศุภาลัยก็ติดลบ -10%, พฤกษา โฮลดิ้ง -9% และ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ รายได้รวมลดลงราว -4% ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ถึงภาพรวมที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับภาวะตลาดที่ท้าทาย และเป็นบทเรียนสำคัญในการวาง “กลยุทธ์อสังหาฯ” สำหรับ “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568”

แสนสิริ: แชมป์รายได้รวมปี 2566 และการปรับตัวสู่ปี 2568

ในบรรดาบริษัทที่เผชิญความท้าทาย แสนสิริโดดเด่นขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในด้านรายได้รวมด้วยยอด 39,082 ล้านบาท เติบโตถึง 12% เฉือนอันดับ 2 อย่างเอพี (ไทยแลนด์) ไปอย่างเฉียดฉิว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับตัวและสร้างการเติบโตได้แม้ในสภาวะตลาดที่ยากลำบาก หากมองไปข้างหน้าสำหรับ “แนวโน้มอสังหาฯ” ปี 2568 การรักษาโมเมนตัมนี้จำเป็นต้องอาศัยการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง การบริหารจัดการสต็อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย โดยเฉพาะในกลุ่ม “บ้านเดี่ยวหรู” หรือ “คอนโดมิเนียม” ระดับพรีเมียมที่ยังคงมีดีมานด์

การวิเคราะห์เชิงลึก: รายได้จากการขาย และบทบาทสำคัญในปี 2568

แม้รายได้รวมจะสำคัญ แต่ “รายได้จากการขาย” คือหัวใจสำคัญที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานหลักของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะรายได้รวมอาจมีปัจจัยอื่นเข้ามาช่วยหนุน (เช่น การขายสินทรัพย์หรือรายได้ค่าเช่า) โดยรวม 41 บริษัทมียอดรายได้จากการขาย 268,460 ล้านบาท ลดลงถึง -11% จากปี 2565 และมีถึง 30 จาก 41 บริษัทที่รายได้จากการขายลดลง นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าการระบายสต็อกสินค้าและยอดขายโครงการใหม่เป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างยิ่ง

บริษัทที่ได้รับผลกระทบหนักในส่วนของรายได้จากการขาย ได้แก่ ไรมอน แลนด์ ที่ลดลงมหาศาลถึง -78% และ แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ที่ลดลงเกือบ -40% แม้แต่แลนด์แอนด์เฮ้าส์ก็ยังมียอดขายลดลงถึง -38% ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจับตาอย่างยิ่ง สำหรับ เอพี (ไทยแลนด์) แม้จะเป็นผู้นำด้านยอดขาย แต่ก็ยังมียอดขายลดลงเล็กน้อยที่ -2% และที่น่าสนใจคือในกลุ่ม Top 10 บริษัทที่มีรายได้จากการขายสูงสุด มีถึง 8 บริษัทที่ยอดขายลดลง สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้แต่บริษัทที่มีแบรนด์แข็งแกร่งก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการปิดการขาย

เอพี (ไทยแลนด์): แชมป์ยอดขาย และกลยุทธ์เชิงรุกสำหรับ “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568”

เอพี (ไทยแลนด์) กลับมาผงาดเป็นอันดับ 1 ในด้านรายได้จากการขาย ด้วยยอดรวม 36,927 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการวางแผนและเปิดโครงการอย่างต่อเนื่อง และการทำตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ใน “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568” นี้ การรักษาตำแหน่งผู้นำด้านยอดขายจะยิ่งต้องอาศัยกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งขึ้น เช่น การพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่ม (Niche Market) การนำเทคโนโลยี “PropTech ไทย” มาช่วยในการขายและการบริหารจัดการลูกค้า รวมถึงการนำเสนอโปรโมชั่นและ “สินเชื่อบ้าน 2568” ที่น่าดึงดูดใจเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ

แสนสิริ เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในด้านยอดขาย โดยมีรายได้จากการขายเติบโตถึง 7% และเข้าป้ายเป็นอันดับ 2 ด้วยยอด 32,829 ล้านบาท เช่นเดียวกับ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ที่ทะยานขึ้นมาอยู่ใน Top 5 ด้วยรายได้ขาย 23,370 ล้านบาท และมียอดเติบโตถึง 13% การเติบโตของบริษัทเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จในการจับทิศทางตลาด การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดนใจผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ใน “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568”

อีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามองคือ เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ที่เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตจากการปูพรมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยในปี 2566 มีรายได้จากการขาย 5,835 ล้านบาท เติบโตถึง 103% จากปีก่อนหน้า การเติบโตแบบก้าวกระโดดนี้สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้จากหลากหลายธุรกิจ ซึ่งเป็นแนวทางที่ผู้ประกอบการรายอื่นควรพิจารณาเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

กำไรสุทธิ: มาตรวัดความสำเร็จที่แท้จริง และเส้นทางสู่ความมั่งคั่งใน “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ปี 2568

ไม่ว่าใครจะขายดีแค่ไหน แต่หากไม่สามารถเปลี่ยนยอดขายเป็นกำไรได้ ก็ไม่อาจถือเป็นผู้ชนะที่แท้จริง ปี 2566 ทั้ง 41 บริษัทมียอดกำไรสุทธิรวมกัน 44,165 ล้านบาท ลดลง -11% จากปี 2565 และที่น่าตกใจคือมีถึง 12 บริษัทที่ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี และกว่า 20 บริษัทจาก 41 บริษัทที่กำไรลดลง นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าการบริหารจัดการต้นทุนและประสิทธิภาพการทำกำไรคือความท้าทายใหญ่หลวง

แลนด์แอนด์เฮ้าส์: แชมป์กำไรสุทธิ และกลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์ใน “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568”

แลนด์แอนด์เฮ้าส์ แม้รายได้จากการขายจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลับสามารถคว้าแชมป์กำไรสุทธิไปได้ถึง 7,495 ล้านบาท สาเหตุสำคัญคือการรับรู้กำไรพิเศษ 2,500 ล้านบาทจากการขายโรงแรม 2 แห่งเข้ากองทุน ซึ่งเป็นกลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ชาญฉลาด หากไม่มีกำไรพิเศษนี้ ศุภาลัยซึ่งทำกำไรได้ 6,083 ล้านบาทคงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 อย่างแน่นอน

สิ่งที่แลนด์แอนด์เฮ้าส์แสดงให้เห็นคือ ความสำคัญของการมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายและการบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ การมองหาโอกาสในการ “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ในรูปแบบที่สร้างกระแสเงินสดและมีมูลค่าเพิ่มในระยะยาว เช่น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า หรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการขายออกเพื่อทำกำไรพิเศษ จะเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับปี 2568 เพื่อสร้างความยืดหยุ่นทางการเงินและลดความผันผวนจากยอดขายโครงการใหม่เพียงอย่างเดียว

แสนสิริเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าชื่นชมในด้านการทำกำไร โดยมีกำไรสุทธิ 5,846 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 42% สะท้อนให้เห็นถึงการปรับโครงสร้างต้นทุนและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการสร้างยอดขายที่ดี สิ่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับ “การวิเคราะห์ตลาดอสังหา” ที่เน้นผลกำไรเป็นที่ตั้ง

ปัจจัยขับเคลื่อนและกลยุทธ์พิชิต “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568”

จากบทเรียนที่ผ่านมา ผมมองว่า “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568” จะยังคงเป็นปีที่ท้าทาย แต่ก็เต็มไปด้วย “โอกาสลงทุนอสังหา” สำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและปรับตัวได้รวดเร็ว โดยมีปัจจัยสำคัญและกลยุทธ์ที่ต้องให้ความสำคัญดังนี้:

เศรษฐกิจมหภาคและกำลังซื้อของผู้บริโภค: “นโยบายรัฐ อสังหาฯ” และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภค หากเศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้ตามเป้าหมาย อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อาจลดลงเล็กน้อย รวมถึงมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ผ่อนปรนขึ้น จะช่วยหนุน “กำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์” ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ผู้ประกอบการต้องเตรียมแผนการตลาดที่ยืดหยุ่นและข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น แพ็กเกจสินเชื่อพิเศษ หรือการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการโอน

การปรับโครงสร้างหนี้และบริหารจัดการสภาพคล่อง: บริษัทที่มีหนี้สินสูงและมีปัญหากระแสเงินสดจะยังคงเผชิญความกดดัน การบริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวด การลดการพึ่งพาแหล่งเงินกู้ระยะสั้น และการเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความอยู่รอดและความยั่งยืน

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ (Product Differentiation): ผู้บริโภคในยุค 2568 มีความต้องการที่ซับซ้อนและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น การพัฒนาโครงการที่เน้นคุณภาพดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น และการผสมผสานเทคโนโลยี Smart Home จะเป็นจุดแข็ง การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) เช่น “บ้านเดี่ยวหรู” คอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน หรือโครงการที่เน้นผู้สูงอายุ จะช่วยสร้างยอดขายได้

ความยั่งยืนและ ESG (Environmental, Social, Governance): กระแส “อสังหาฯ ยั่งยืน” กำลังมาแรง ผู้บริโภคและนักลงทุนให้ความสำคัญกับโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบที่ประหยัดพลังงาน การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ และการสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียว จะเพิ่มมูลค่าและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น การดำเนินการตามหลัก ESG จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัท

การนำเทคโนโลยี “PropTech” มาใช้: “ดิจิทัลอสังหาฯ” ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น ตั้งแต่การตลาดออนไลน์ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การทำ Virtual Tour ไปจนถึงการบริหารจัดการโครงการและหลังการขาย การลงทุนใน “PropTech ไทย” จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

การลงทุนจากต่างชาติ: “การลงทุนต่างชาติ อสังหาฯ” โดยเฉพาะจากจีน รัสเซีย และกลุ่มประเทศ CLMV อาจกลับมามีบทบาทมากขึ้นในบางเซกเมนต์ หากนโยบายภาครัฐเอื้ออำนวย ผู้ประกอบการควรเตรียมความพร้อมในการนำเสนอโครงการที่ตอบโจทย์นักลงทุนและผู้ซื้อจากต่างประเทศ

การกระจายความเสี่ยงและสร้างแหล่งรายได้ใหม่: บทเรียนจาก CPN และ L&H ชี้ให้เห็นว่าการมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายนอกเหนือจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว เช่น การพัฒนาโครงการ Mixed-use, โรงแรม, พื้นที่ค้าปลีก, หรือคลังสินค้า จะช่วยสร้างความมั่นคงและลดความผันผวนของรายได้รวม

สรุปและแนวทางสำหรับ “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568”

ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการพิสูจน์ความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการ “อสังหาริมทรัพย์ไทย” บริษัทที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่สามารถถอดบทเรียนจากความท้าทายในอดีต ผสานกับวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลในการจับ “แนวโน้มอสังหาฯ” ที่กำลังจะเกิดขึ้น การบริหารจัดการอย่างรอบคอบ การเงินที่แข็งแกร่ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง และการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้าง “ความได้เปรียบทางการแข่งขัน” และเติบโตอย่างยั่งยืน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าแม้ตลาดจะยังคงมีความไม่แน่นอน แต่ด้วย “กลยุทธ์อสังหาฯ” ที่ถูกต้องและ “การวิเคราะห์ตลาดอสังหา” อย่างลึกซึ้ง บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคและคว้า “โอกาสลงทุนอสังหา” ที่ซ่อนอยู่ในความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

ร่วมขับเคลื่อนอนาคต “อสังหาริมทรัพย์ไทย” ไปพร้อมกับเรา

การเปลี่ยนแปลงใน “ตลาดอสังหาฯ ปี 2568” กำลังเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจที่ชาญฉลาดและทันท่วงทีคือสิ่งสำคัญสูงสุด หากท่านต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม คำแนะนำด้าน “กลยุทธ์อสังหาฯ” หรือปรึกษาแนวทาง “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์” เพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาดที่กำลังผันผวนนี้ โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราวันนี้ เราพร้อมจะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการนำพาท่านไปสู่ความสำเร็จในสมรภูมิอสังหาริมทรัพย์แห่งอนาคต.

Previous Post

คิมเบอร์ลี่อ้อนผู้จัดอยากคัมแบกละคร ยันไม่ได้ท้องแค่อ้วน พร้อมเผยสภาพจิตใจย่ำแย่หลังเห็นข่าวน้ำท่วม บริจาค 2 แสนช่วยผู้ประสบภัย

Next Post

เพ็ทช็อปสระแก้วร่วมโครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ ถูกใจคนรักสัตว์ — เจ้าของเล่าจุดเริ่มต้นจากแมวจรเพียง 1 ตัว

Next Post
เพ็ทช็อปสระแก้วร่วมโครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ ถูกใจคนรักสัตว์ — เจ้าของเล่าจุดเริ่มต้นจากแมวจรเพียง 1 ตัว

เพ็ทช็อปสระแก้วร่วมโครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ ถูกใจคนรักสัตว์ — เจ้าของเล่าจุดเริ่มต้นจากแมวจรเพียง 1 ตัว

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • “ทนายเจมส์” ตั้งข้อสงสัย หลังมี 2 สายโทรอ้างเป็นน้องคนสนิทของ “นัทปง” โทรตามจี้ถามเรื่องพินัยกรรมกลางงานศพ!
  • “เสือโคร่งโตเต็มวัย” โผล่ที่ผารักษ์สลัดได จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ชี้เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติ เตือนประชาชนให้ระวังแต่ไม่ต้องตระหนก!!
  • ความเสียหายเศรษฐกิจจากน้ำท่วมหาดใหญ่ พุ่งคาดแตะแสนล้านบาท ขยะตกค้างทะลุ 1 ล้านตัน!
  • หัวหน้าเพื่อไทยโต้ข่าว ยืนยันไม่จริงเรื่องยื่นซักฟอก ขออย่าตื่นตระหนกตามกระแส ชี้ทุกอย่างต้องรอถามที่ประชุม ส.ส. ก่อน
  • โรงงานทำขนมจีนที่ อ.ปาย ระเบิดสนั่น! ชาวบ้านตกใจทั่วพื้นที่

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.