• Privacy Policy
  • Sample Page
News
No Result
View All Result
No Result
View All Result
News
No Result
View All Result

หาดใหญ่เพิ่มตู้คอนเทนเนอร์เป็น 6 ตู้ รองรับเก็บร่างผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม

admin79 by admin79
November 28, 2025
in Uncategorized
0
หาดใหญ่เพิ่มตู้คอนเทนเนอร์เป็น 6 ตู้ รองรับเก็บร่างผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม

จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิตหลายราย ซึ่งต่อมาทางกระทรวงสาธารณสุขประกาศว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายให้โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นศูนย์กลางในการรับร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย โดยให้หน่วยกู้ภัยนำร่างส่งมายังโรงพยาบาลเพื่อบันทึกตามระบบ เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินกระบวนการเยียวยาต่อไป

ล่าสุด โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมแจ้งว่า ขณะนี้มีร่างผู้เสียชีวิตส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องระบุตัวตนตามแนวทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงยังไม่สามารถมอบร่างให้ญาติรับได้ในทันที

สำหรับการเตรียมความพร้อมรองรับร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม จะมีการนำตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาอีก 4 ตู้ รวมกับที่มีอยู่เดิม 2 ตู้ เป็นทั้งหมด 6 ตู้ เพื่อใช้เป็นพื้นที่เก็บศพในห้องเก็บศพของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์

ถอดรหัสตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: ใครคือผู้ชนะตัวจริงในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวัฏจักรของตลาดที่ผันผวน ทั้งช่วงรุ่งโรจน์และช่วงเวลาแห่งความท้าทาย ปี 2566 ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาดอสังหาฯ ที่ต้องเผชิญกับปัจจัยรุมเร้ามากมาย ตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ดอกเบี้ยขาขึ้น ไปจนถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม รายได้รวมและกำไรสุทธิของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายแห่งในปีนั้นได้ส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจน แม้แต่ยักษ์ใหญ่บางรายก็ยังต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วนเพื่อประคองสถานการณ์

แต่เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2568 สถานการณ์ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญที่เต็มไปด้วยทั้งความท้าทายใหม่ๆ และโอกาสทองสำหรับผู้ที่มองเห็นและปรับตัวได้รวดเร็ว บทความนี้จะเจาะลึกถึงแนวโน้มและปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของตลาดในปี 2568 รวมถึงวิเคราะห์กลยุทธ์ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้องงัดออกมาใช้ เพื่อก้าวขึ้นเป็น “ผู้ชนะตัวจริง” ในสมรภูมิที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดนี้

ภูมิทัศน์ใหม่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568: ปัจจัยขับเคลื่อนและแรงกดดัน

ปี 2568 ไม่ใช่แค่การดำเนินธุรกิจแบบเดิมๆ อีกต่อไป หากแต่เป็นการปรับตัวสู่โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ปัจจัยหลักที่ shaping ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปัจจุบันมีความซับซ้อนและหลากหลายกว่าที่เคยเป็นมา:

เศรษฐกิจมหภาคและกำลังซื้อ: แม้เศรษฐกิจโลกจะส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ความผันผวนของอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นแรงกดดันสำคัญ โดยเฉพาะในตลาดสินเชื่อบ้าน ผู้ซื้อบ้านมือใหม่ยังคงเผชิญกับภาระดอกเบี้ยที่สูง ทำให้การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยต้องใช้ความรอบคอบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทย อาจเป็นแรงหนุนที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในระยะยาว ผู้พัฒนาที่เข้าใจถึงกำลังซื้อที่แท้จริงและปรับขนาดโครงการให้เหมาะสม จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพได้
พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป: การระบาดของโควิด-19 ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตและการทำงาน ผู้คนให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่นมากขึ้น (multi-functional spaces) ความต้องการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในทำเลที่สามารถเดินทางสะดวกแต่ยังคงความเงียบสงบ ยังคงเป็นที่ต้องการสูง ขณะที่คอนโดมิเนียมใจกลางเมืองต้องปรับตัวให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เน้นความเป็นส่วนตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พลังงานสะอาด สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย
เทคโนโลยีและนวัตกรรม (PropTech): การนำเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์เข้ามาใช้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การตลาดออนไลน์อีกต่อไป แต่รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ การก่อสร้างอัจฉริยะ (Smart Construction) และการสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบไร้รอยต่อ (Seamless Customer Journey) ระบบบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) และการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นมาตรฐานใหม่ที่ผู้ซื้อคาดหวัง การลงทุนใน PropTech จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
ความยั่งยืนและ ESG: ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นข้อกำหนดสากลที่นักลงทุนและผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างจริงจัง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานหมุนเวียน การลดปริมาณของเสีย และการสร้างชุมชนที่มีคุณภาพ จะเป็นจุดแข็งที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการและแบรนด์ในระยะยาว
ตลาดนักลงทุนและชาวต่างชาติ: การกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและกลุ่มประเทศ CLMV กำลังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์หรูและโครงการเพื่อการลงทุน นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าก็มีแนวโน้มเติบโตจากกลุ่มผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนอสังหาริมทรัพย์ที่สม่ำเสมอ

การถอดรหัสผลงาน: ใครคือผู้นำในเกมที่ซับซ้อนขึ้น?

หากมองย้อนกลับไปที่ผลประกอบการในปี 2566 ของ 41 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ที่ Property Mentor ได้รวบรวมไว้ จะเห็นได้ว่าหลายบริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก ตัวเลขรายได้รวมที่ลดลง 1.2% และรายได้จากการขายที่หดตัวลงถึง 11% สะท้อนถึงภาวะกดดันในอุตสาหกรรม แต่ในภาพรวมที่ดูเหมือนจะท้าทาย ยังมีสัญญาณของการปรับตัวและกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญที่เราจะนำมาใช้คาดการณ์ผู้ชนะในปี 2568

ในปี 2566 นั้น แสนสิริ สร้างรายได้รวมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยตัวเลข 39,082 ล้านบาท เติบโตถึง 12% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวโครงการหลากหลายรูปแบบและทำเลที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภค การรักษาความสามารถในการสร้างรายได้ที่เติบโตได้แม้ในภาวะตลาดชะลอตัว แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และการบริหารพอร์ตโฟลิโอที่มีประสิทธิภาพ

ขณะที่ในมิติของรายได้จากการขาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ เอพี (ไทยแลนด์) ยังคงยืนหนึ่งด้วยรายได้จากการขายรวม 36,927 ล้านบาท แม้จะลดลงเล็กน้อยที่ 2% แต่ก็สะท้อนถึงความสามารถในการส่งมอบและปิดการขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมี แสนสิริ ตามมาเป็นอันดับสองด้วยรายได้จากการขายที่เติบโตถึง 7% และ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ที่สร้างการเติบโตของรายได้จากการขายได้ถึง 13% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับกลยุทธ์การขายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

อย่างไรก็ตาม การวัดผลสำเร็จที่แท้จริงไม่เพียงแค่มองที่รายได้จากการขายหรือรายได้รวมเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึง “กำไรสุทธิ” ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรและบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2566 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ สามารถทำกำไรสุทธิสูงสุดถึง 7,495 ล้านบาท แม้รายได้รวมจะลดลงอย่างมากก็ตาม ส่วนหนึ่งมาจากกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมเข้ากองทุน ซึ่งตอกย้ำว่า “ผู้ชนะ” ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว แต่ยังรวมถึงความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพอร์ตโฟลิโอที่มีอยู่ด้วย ศุภาลัย และ เอพี (ไทยแลนด์) ก็ยังคงทำกำไรได้ในระดับสูงเช่นกัน สะท้อนถึงพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและกลยุทธ์การบริหารจัดการที่เข้มงวด

จากบทเรียนในปี 2566 สู่การคาดการณ์ปี 2568 บริษัทที่จะเป็น “ผู้ชนะตัวจริง” ไม่ใช่เพียงแค่บริษัทที่มียอดขายหรือรายได้สูงสุด แต่คือบริษัทที่:

มีพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายและยืดหยุ่น: สามารถปรับเปลี่ยนประเภทโครงการ ทำเล และราคาให้สอดรับกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่พึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป
มีวินัยทางการเงินที่เข้มแข็ง: บริหารจัดการหนี้สิน ต้นทุน และกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรักษากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่ดีได้แม้ในภาวะตลาดผันผวน
ลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม: ใช้ PropTech เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ การขาย ไปจนถึงบริการหลังการขาย
ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน: ผสานรวมหลักการ ESG เข้ากับการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การสร้างภาพลักษณ์ แต่เป็นการสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
เข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง: ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ผู้สูงอายุ หรือชาวต่างชาติ รวมถึงการสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง

กลยุทธ์สำคัญเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในปี 2568

เพื่อรับมือกับภูมิทัศน์ใหม่และก้าวข้ามความท้าทาย บริษัทอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่คมชัดและปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา:

การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยดิจิทัล: จากบทเรียนในอดีต บริษัทที่สามารถทำยอดขายได้ดีมักเป็นบริษัทที่ปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ในปี 2568 การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) และการนำ Virtual Reality (VR) มาช่วยในการพรีเซนต์โครงการ จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบ การลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นผ่านระบบอัตโนมัติ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ
การกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้ประจำ: การพึ่งพารายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยงสูงในภาวะตลาดผันผวน บริษัทอสังหาริมทรัพย์ควรพิจารณาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่มีรายได้ประจำ (Recurring Income) เช่น โครงการค้าปลีก โรงแรม ออฟฟิศให้เช่า หรือคลังสินค้าให้เช่า การสร้างสมดุลของพอร์ตโฟลิโอจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว
การพัฒนาโครงการที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ Well-being: การใส่ใจสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยไม่ใช่แค่จุดขาย แต่เป็นมาตรฐานใหม่ การออกแบบโครงการที่ประหยัดพลังงาน การใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การมีพื้นที่สีเขียวที่เพียงพอ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ จะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น การลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืนจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
การสร้างความร่วมมือและพันธมิตรทางธุรกิจ: ในยุคที่ซับซ้อนเช่นนี้ ไม่มีบริษัทใดสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง การจับมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี การเงิน หรือการออกแบบ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาโครงการที่แตกต่างและตอบโจทย์ตลาดได้ดียิ่งขึ้น
การบริหารจัดการเงินทุนและสภาพคล่องอย่างระมัดระวัง: สภาพคล่องทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยบ้านยังคงมีความผันผวน การบริหารจัดการหนี้สินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงิน และการมองหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ จะช่วยให้บริษัทมีความคล่องตัวในการดำเนินงานและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

อนาคตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: ใครคือแชมป์ที่แท้จริง?

ปี 2568 จะเป็นปีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเต็มไปด้วยพลวัตและความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับผู้ที่มองเห็นการณ์ไกลและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

“ผู้ชนะตัวจริง” ในปีนี้ไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดหรือมีโปรเจกต์อลังการที่สุดเสมอไป แต่คือบริษัทที่มี “ความยืดหยุ่น” (Resilience) “ความสามารถในการปรับตัว” (Adaptability) และ “นวัตกรรม” (Innovation) เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงาน พวกเขาจะสามารถอ่านตลาดได้อย่างเฉียบคม พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่ บริหารจัดการต้นทุนและสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ สร้างมูลค่าเพิ่มที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า สังคม และผู้ถือหุ้น

เราจะเห็นการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในทุกเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่ต้องแข่งกันด้วยดีไซน์ ฟังก์ชัน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือกว่า รวมถึงตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในทำเลศักยภาพที่ยังคงเป็นที่ต้องการสูง ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยและการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านมาตรการกระตุ้นต่างๆ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

บทสรุปคือ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 ต้องการผู้เล่นที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล กล้าที่จะออกจากกรอบเดิมๆ และพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ ผู้ที่เข้าใจในแก่นแท้ของความต้องการมนุษย์ และสามารถผสานรวมเทคโนโลยีเข้ากับความยั่งยืนได้อย่างลงตัวเท่านั้น ที่จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้

หากคุณคือหนึ่งในผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้ที่สนใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย อย่ารอช้าที่จะศึกษาข้อมูลเชิงลึก พัฒนากลยุทธ์ที่แตกต่าง และเตรียมพร้อมรับมือกับทุกความท้าทาย เพราะโอกาสครั้งใหญ่กำลังรอคอยผู้ที่พร้อมจะคว้ามันไว้ อย่าพลาดที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง และร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยไปด้วยกัน!

Previous Post

คนไทยไม่ทิ้งกัน! แฟนคลับ BamBam Thailand ร่วมบริจาคในนามแบมแบม GOT7 ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ 150,000 บาท

Next Post

น้ำใจคนไทย! เปิดรถให้ผู้ประสบภัยชาร์จแบตฟรี ช่วยให้ติดต่อโลกภายนอกได้หลังถูกตัดขาดหลายวัน

Next Post
น้ำใจคนไทย! เปิดรถให้ผู้ประสบภัยชาร์จแบตฟรี ช่วยให้ติดต่อโลกภายนอกได้หลังถูกตัดขาดหลายวัน

น้ำใจคนไทย! เปิดรถให้ผู้ประสบภัยชาร์จแบตฟรี ช่วยให้ติดต่อโลกภายนอกได้หลังถูกตัดขาดหลายวัน

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • เคน ภูภูมิ ขอไม่เปิดเผยตัวเลขความเสียหายคาเฟ่ที่หาดใหญ่ ยืนยันสู้ต่อ เดินหน้าฟื้นฟูและปรับปรุงร้านใหม่
  • ‘จ๊ะ นงผณี’ เปิดพฤติกรรม ‘ผู้ชาย 3 ประเภท’ ที่มักโผล่ในข่าวฉาว เตือนสาวๆ ถ้าเจอแบบนี้ให้รีบหนีทันที!
  • “นายกฯ” นำคณะลงพื้นที่สงขลา–สตูล ถกแผนฟื้นฟูหลังน้ำท่วม พร้อมปฏิเสธตอบดราม่า นายกฯ อบจ.สงขลา ดูแคลน อส.
  • “กุญแจซอล” คุณแม่ลูก 5 เปิดภาพครอบครัวสุดอบอุ่น รายล้อมด้วยสามีและลูกๆ ทั้งหมด ดูมีความสุขสุดๆ
  • เช็กสถานะรับเงินเยียวยาน้ำท่วม 2568! เปิดขั้นตอนลงทะเบียนครบถ้วน พร้อม 4 รูปแบบการจ่ายเงินให้ผู้ประสบอุทกภัย

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.